สาเหตุการปรับค่า Ft 77.70 สตางค์ต่อหน่วย

(เดือน ตุลาคม 2551 - ธันวาคม 2551)

           นาย ดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า การพิจารณาค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (ค่าเอฟที) ที่ประชุม กกพ. มีมติเห็นชอบให้มีการคิดค่าเอฟที 3 เดือน ในรอบนี้เพื่อปรับระยะเวลาการปรับค่าเอฟทีทุกเดือนตามรอบปีปฏิทินการบันทึกบัญชีของการไฟฟ้า โดยค่าเอฟทีในรอบเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2551 จะอยู่ที่ 77.70 สตางค์ต่อหน่วย เพิ่มขึ้นจากรอบบิลที่ผ่านมา(เดือนมิถุนายน – กันยายน 25 51) ซึ่งอยู่ที่ 62.85 สตางค์ต่อหน่วย จำนวน 14.85 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บจากประชาชนในบิลค่าไฟฟ้ารอบนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 3.02 บาทต่อหน่วย หรือสูงขึ้นจากรอบที่ผ่านมาเฉลี่ย 5.17 %

           อย่างไรก็ตามการคำนวณค่าเอฟทีปกติในรอบนี้ค่าเอฟทีจะปรับขึ้น 57.22 สตางค์ต่อหน่วย จาก ราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นถึง 23.43 บาทต่อล้านบีทียู จากเดิมราคาเฉลี่ยเดือนมิถุนายน-กันยายน 2551 อยู่ที่ 205.90 บาทต่อล้านบีทียู เป็น 229.33 บาทต่อล้านบีทียู ในรอบเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2551 ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าที่ปัจจุบันประเทศใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าเกือบ 70 % ปรับสูงขึ้นอย่างมาก ขณะที่แนวโน้มราคาก๊าซยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องสะท้อนตามราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้อัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลงจาก 31.50 เป็น 34 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ก็มีส่วนทำให้ค่าเอฟทีปรับเพิ่มขึ้นด้วย

           แต่เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน รวมถึงภาคอุตสาหกรรมในการผลิตคณะกรรมการฯ จึงมีมติให้นำส่วนต่างการจัดซื้อค่าก๊าซฯ จากค่า Take or Pay ปี 2551 จำนวน 3,600 ล้านบาท และค่าปรับที่คาดว่าจะเรียกเก็บจากปริมาณก๊าซแหล่งอาทิตย์ที่ขาดส่ง จำนวน 700 ล้านบาท รวม 4,300 บาท มาลดผลกระทบเอฟทีได้จำนวน 12.68 สตางค์ต่อหน่วย และให้มีการปรับเอฟทีรอบนี้เพิ่มขึ้นเพียงจำนวน 14.85 สตางค์ต่อหน่วย

            โดยส่วนต่างค่าเอฟทีที่คำนวณและเรียกเก็บที่เหลืออีกจำนวน 29.69 สตางค์ต่อหน่วย หรือคิดเป็นเงินประมาณ 10,058 ล้านบาท ให้ กฟผ.นำไปเรียกเก็บในการคำนวณเอฟทีในรอบต่อไป

           อย่างไรก็ตามประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน จะไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับค่าเอฟทีรอบนี้โดยตรง เนื่องจากภาครัฐได้รับภาระค่าใช้จ่ายไฟฟ้าแทนประชาชนในช่วงเดือนสิงหาคม 2551 – มกราคม 2552 ตามมาตรการของภาครัฐ ในการลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าของครัวเรือน