การจัดการน้ำ

กฟผ. ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด อีกทั้งยังเป็นแหล่งทรัพยากรที่ต้องใช้ร่วมกัน จึงกำหนดแนวทางในการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันและลดผลกระทบ
ที่อาจเกิดกับสังคมและสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด

เป้าหมายปี 2567 ผลการดำเนินงาน
● คุณภาพน้ำทิ้งจากโรงไฟฟ้า มีค่าไม่เกินเกณฑ์มาตรฐาน ตามประกาศกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้า พ.ศ. 2565● คุณภาพน้ำทิ้งจากโรงไฟฟ้า มีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้า
พ.ศ. 2565

การบริหารจัดการ

กฟผ. มีแนวทางในการใช้ทรัพยากรน้ำในกระบวนการผลิตไฟฟ้าและการอุปโภคบริโภคภายในองค์การให้เกิดประโยชน์สูงสุดและคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดจากกิจกรรมขององค์การต่อสังคมและ
สิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการ โดยมีการบริหารจัดการน้ำอย่างครอบคลุม ตั้งแต่การดึงน้ำ การใช้น้ำ และการระบายน้ำสู่ภายนอก รวมถึงมีการปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรการต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด

การจัดการการใช้น้ำในฐานะทรัพยากรที่ใช้ร่วมกัน [303-1]  

น้ำเป็นหนึ่งในทรัพยากรสำคัญที่ถูกนำมาใช้ทั่วทั้งองค์การ ทั้งอาคารสำนักงานที่รับน้ำประปาจากการประปานครหลวง โรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตไฟฟ้าจาก
โรงไฟฟ้าพลังความร้อนและพลังความร้อนร่วมทั้ง 8 แห่ง ซึ่งใช้น้ำเป็นสัดส่วนใหญ่ขององค์การ โดยมีการดึงน้ำจากแหล่งน้ำใกล้เคียงมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งน้ำตามธรรมชาติ ได้แก่ คลองระพีพัฒน์แหล่งน้ำของโรงไฟฟ้าวังน้อย ลำน้ำพองแหล่งน้ำของโรงไฟฟ้าน้ำพอง แม่น้ำเจ้าพระยาแหล่งน้ำของโรงไฟฟ้าพระนครเหนือและโรงไฟฟ้าพระนครใต้ แม่น้ำบางปะกงแหล่งน้ำของโรงไฟฟ้าบางปะกง คลองปกาสัยแหล่งน้ำของโรงไฟฟ้ากระบี่ และคลองโพมาแหล่งน้ำของโรงไฟฟ้าจะนะ และแหล่งน้ำที่สร้างขึ้น ได้แก่ เขื่อนแม่ขามและเขื่อนแม่จาง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำหรับโรงไฟฟ้าแม่เมาะซึ่งแหล่งน้ำทั้ง 8 แห่งนี้ ไม่จัดเป็นพื้นที่อนุรักษ์หรือพื้นที่คุ้มครองในระดับประเทศและระดับสากล และไม่มีจำนวนสายพันธุ์ที่อนุรักษ์และคุ้มครอง

กฟผ. มีการประเมินผลกระทบจากการใช้น้ำจากแหล่งน้ำของโรงไฟฟ้าก่อนเริ่มโครงการ อาทิ การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) สำหรับช่วงดำเนินโครงการ โรงไฟฟ้าทุกแห่งของ กฟผ. ต้องได้รับอนุญาตใช้น้ำจากหน่วยอนุญาตตามพื้นที่ ตลอดจนมีการเก็บข้อมูลและควบคุมปริมาณและคุณภาพน้ำอย่างใกล้ชิด ซึ่งจากการดำเนินงานที่ผ่านมาพบว่า แหล่งน้ำทุกแห่งสามารถรองรับการใช้งานจากโรงไฟฟ้าได้ ทั้งในช่วงฤดูแล้งและฤดูฝน โดยไม่ส่งผลกระทบหรือเกิดปัญหาการแย่งใช้น้ำจากชุมชน นอกจากนี้ กฟผ. ยังกำหนดมาตรการป้องกันและฟื้นฟูผลกระทบที่อาจเกิดกับทรัพยากรแหล่งน้ำ ทั้งด้านกายภาพและด้านชีวภาพ เช่น การติดตั้งตะแกรงกั้นสัตว์น้ำและสัตว์น้ำวัยอ่อนไว้บริเวณจุดสูบน้ำเข้าของโรงไฟฟ้า และการจัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ อาทิ พันธุ์ปลาและพันธุ์หอย เป็นประจำทุกปี พร้อมทั้งกำหนดมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับแหล่งน้ำใกล้เคียงอย่างสม่ำเสมอ

สำหรับการใช้น้ำของโรงไฟฟ้าพลังน้ำในกระบวนการผลิตไฟฟ้า เป็นเพียงการปล่อยน้ำผ่านเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โดยไม่ได้มีน้ำส่วนใดหายไป และเป็นผลพลอยได้จากการชลประทานเพื่อการเกษตรเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ด้วยตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับชุมชนทั้งด้านเหนือและท้ายอ่างเก็บน้ำ กฟผ. จึงมีการศึกษาผลกระทบจากการเก็บกักและระบายน้ำ การคาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์น้ำล่วงหน้า ทั้งระยะสั้นและระยะยาว และการจัดทำแผนระบายน้ำที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน รวมไปถึงการสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อรับทราบปัญหา หารือ และติดตามแนวทางการแก้ไขผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

ในส่วนของการบริหารจัดการน้ำภายในเหมืองแม่เมาะ จังหวัดลำปาง มีการศึกษาและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของโครงการ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และระเบียบปฏิบัติของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อดูแลผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากโครงการทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพอย่างเคร่งครัด รวมทั้งมีการออกแบบให้มีบ่อ
กักเก็บน้ำฝนภายในบ่อเหมือง โดยสูบน้ำจนถึงระดับควบคุม น้ำส่วนหนึ่งจะถูกนำกลับมาใช้ในกิจกรรมการทำเหมือง เช่น การสเปรย์ดักจับฝุ่นที่ฟุ้งกระจายจากถนน สายพานลำเลียง และการดับไฟที่เกิด
จากการลุกไหม้ของถ่านหิน และอีกส่วนหนึ่งจะถูกสูบออก ซึ่งจะถูกนำไปรวมกันในบ่อดักตะกอนภายนอกบ่อเหมือง และทำการปรับปรุงคุณภาพน้ำด้วยวิธี Wetland แล้วจึงปล่อยสู่ทางน้ำธรรมชาติ ทั้งนี้
ด้วยสภาพพื้นที่แอ่งแม่เมาะที่มีชั้นหินปูนแทรกอยู่ตามชั้นดินชั้นถ่าน และจากการติดตามคุณภาพน้ำที่ผ่านมา พบว่าน้ำมีค่าความเป็นกรด-ด่าง อยู่ในระดับปานกลางถึงด่างเล็กน้อย จึงไม่พบสภาวะน้ำที่มีฤทธิ์เป็นกรดในเหมือง

การจัดการผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับการระบายน้ำ [303-2]   

กฟผ. มีการควบคุมคุณภาพน้ำที่ระบายจากโรงไฟฟ้า โดยติดตั้งระบบบำบัดน้ำให้มีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด ก่อนจะนำไปไว้ในบ่อพักน้ำภายในพื้นที่ของโรงไฟฟ้า และระบายสู่
แหล่งน้ำที่ได้รับอนุญาตบริเวณใกล้เคียง ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าหลายแห่งของ กฟผ. ใช้น้ำในบ่อพักน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วในการรดน้ำสนามหญ้าและต้นไม้ภายในบริเวณโรงไฟฟ้า โดยไม่มีการระบายน้ำทิ้งสู่
แหล่งน้ำภายนอก มีเพียงการระบายน้ำจากระบบหล่อเย็น ซึ่งผ่านการลดอุณหภูมิก่อนระบายกลับสู่แหล่งน้ำเท่านั้น โดยอุณหภูมิของน้ำดังกล่าวจะควบคุมให้มีค่าอยู่ในช่วงที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต
และอยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

สำหรับการระบายน้ำจากกระบวนการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ กฟผ. มีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อคาดการณ์และวางแผนสถานการณ์น้ำที่จะเกิดขึ้น เช่น กรณีน้ำท่วมหรือน้ำแล้ง รวมทั้งบูรณาการข้อมูลภาครัฐและเอกชน ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการดำเนินการของ กฟผ. จะไม่ส่งผลกระทบต่อสิทธิการใช้น้ำของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสอดคล้องกับกฎหมายและแนวทางการดำเนินงานตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติของประเทศไทย ทั้งนี้ หากเกิดผลกระทบอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ กฟผ. ก็มีมาตรการช่วยเหลือประชาชน ทั้งในด้านเครื่องจักร เครื่องมือ ตลอดจนเครื่องอุปโภคบริโภคต่าง ๆ

กรณีการระบายน้ำจากเหมือง จะมีระบบสำหรับแยกน้ำธรรมชาติและน้ำที่อาจปนเปื้อนจากกิจกรรมการทำเหมืองออกจากกัน และมีการจัดเตรียมพื้นที่รองรับน้ำและระบบบำบัดน้ำที่อาจได้รับการปนเปื้อนไว้อย่างเพียงพอ นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบด้านคุณภาพน้ำตลอดระยะเวลาโครงการ โดยมีการตรวจวัดคุณภาพน้ำทิ้งในบริเวณพื้นที่โครงการและบริเวณใกล้เคียง จำนวน 14 สถานี ทุก 3 เดือน ครอบคลุมทั้งฤดูแล้งและฤดูฝน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณภาพน้ำทิ้งอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของโรงงานอุตสาหกรรมและนิคมอุตสาหกรรม ก่อนระบายลงสู่ลำน้ำสาธารณะ

ปริมาณการดึงน้ำ การระบายน้ำ และการใช้น้ำ [303-3] [303-4] [303-5]
ข้อมูลปี 2567ปี 2566ปี 2565
ทุกพื้นที่
(ล้านลิตร)
พื้นที่ขาดแคลนน้ำ (ล้านลิตร)ทุกพื้นที่
(ล้านลิตร)
พื้นที่ขาดแคลนน้ำ (ล้านลิตร)ทุกพื้นที่
(ล้านลิตร)
พื้นที่ขาดแคลนน้ำ (ล้านลิตร)
ปริมาณน้ำที่ดึงจากภายนอก      
ปริมาณน้ำที่ดึงจากภายนอกทั้งหมด245,272.63224,120.38213,129.71194,593.94241,984.62164,798.52
น้ำผิวดิน (รวมน้ำฝน)244,115.14223,169.95211,670.85193,239.78241,000.16164,642.79
– ปริมาณน้ำจืด139,161.03136,526.74123,139.27121,014.16106,573.1567,836.97
– ปริมาณน้ำอื่น ๆ104,954.1186,643.2088,531.5872,225.62134,427.0096,805.82
น้ำบาดาล82.5238.58102.0058.81124.20949.771
– ปริมาณน้ำจืด82.5238.58102.0058.81124.20949.771
– ปริมาณน้ำอื่น ๆ0.000.000.000.000.000.00
น้ำจากองค์กรอื่น1,074.96911.851,356.861,295.34860.2554087.866
– ปริมาณน้ำจืด1,074.96911.851,356.861,295.34860.255408105.962138
– ปริมาณน้ำอื่น ๆ0.000.000.000.000.000.00
ปริมาณน้ำระบาย      
ปริมาณน้ำระบายทั้งหมด180,974.33169,222.05134,061.94123,818.27155,107.12102,923.41
– ปริมาณน้ำทิ้งที่ปล่อยสู่แหล่งน้ำผิวดิน179,218.25167,465.98131,860.21121,616.54153,068.12100,884.41
– ปริมาณน้ำทิ้งที่ปล่อยสู่แหล่งน้ำใต้ดิน1,756.081,756.082,201.732,201.732,039.002,039.00
– ปริมาณน้ำทิ้งที่ปล่อยสู่ทะเล0.000.000.000.000.000.00
– ปริมาณน้ำทิ้งที่ปล่อยสู่องค์กรอื่น0.000.000.000.000.000.00
– ปริมาณน้ำทิ้งที่เป็นน้ำจืด73,929.0473,924.3155,626.4355,625.1443,097.9524,821.61
– ปริมาณน้ำทิ้งที่เป็นน้ำอื่น ๆ107,045.2995,297.7478,435.5168,193.13112,009.1778,101.80
ปริมาณน้ำใช้      
ปริมาณน้ำใช้ทั้งหมด64,298.3054,898.3279,067.7670,775.6786,877.5061,875.12

หมายเหตุ
–  น้ำจืด หมายถึง น้ำที่มีค่าของแข็งละลายน้ำ (Total Dissolved Solid) ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัม/ลิตร              
– น้ำอื่น ๆ หมายถึง น้ำที่มีค่าของแข็งละลายน้ำ (Total Dissolved Solid) เกิน 1,000 มิลลิกรัม/ลิตร ขึ้นไป
– ปริมาณน้ำใช้ หมายถึง ปริมาณน้ำที่ดึงจากภายนอก – ปริมาณน้ำที่ระบายออก