สิทธิมนุษยชน

กฟผ. ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบและเคารพสิทธิมนุษยชน คุ้มครองผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการระดับชาติ ว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566-2570) และหลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (United Nations Guiding Principles on Business and Human Rights: UNGPs)

เป้าหมายปี 2567 ผลการดำเนินงาน
● มีการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นรูปธรรม● มีหน่วยงานผู้รับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนของ กฟผ.
และมีการกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติตามนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนตามเป้าหมาย
● สัดส่วนของสัญญาหรือข้อตกลงกับคู่ค้า ที่มีการระบุข้อกำหนดเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหรือที่ผ่านการประเมินด้านสิทธิมนุษยชน (งานที่มีมูลค่าตั้งแต่ 500 ล้านบาท ขึ้นไป) เท่ากับร้อยละ 100● สัดส่วนของสัญญาหรือข้อตกลงกับคู่ค้าที่มีการระบุข้อกำหนดเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนฯ
เท่ากับร้อยละ 100 ตามเป้าหมาย
● สัดส่วนของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กฟผ. ที่ได้รับความรู้ด้านสิทธิมนุษยชน
ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
● สัดส่วนของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กฟผ. ที่ได้รับความรู้ด้านสิทธิมนุษยชน
เท่ากับร้อยละ 84.21 ตามเป้าหมาย

นโยบายและความมุ่งมั่น

ในปี 2567 กฟผ. ประกาศนโยบายและแนวปฏิบัติตามนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งครอบคลุมการดำเนินงานที่อาจกระทบต่อสิทธิมนุษยชนทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านแรงงาน ด้านที่ดิน ชุมชน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านนักปกป้องนักสิทธิมนุษยชน และด้านการลงทุน เพื่อใช้งานควบคู่กับนโยบายการกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบ และคู่มือจริยธรรมและจรรยาบรรณ กฟผ. ฉบับปรับปรุง ปี 2566

โครงสร้างการดำเนินงาน

ประธานคณะกรรมการ กฟผ. ได้อนุมัติคู่มือจริยธรรมและจรรยาบรรณ กฟผ. และประธานกรรมการกำกับการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบ ซึ่งเป็นคณะกรรมการชุดย่อยของคณะกรรมการ กฟผ.
ได้ออกประกาศนโยบายการกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบ ซึ่งกำหนดให้ กฟผ. ดำเนินธุรกิจอย่างเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และความเสมอภาคของ
บุคคล ตลอดจนให้การรับรองและคุ้มครองด้านแรงงาน เพื่อให้กรรมการ ผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงาน กฟผ. ใช้เป็นหลักการในการปฏิบัติหน้าที่ ตลอดจนมีการกำหนดให้มีการรายงานผลการบริหารจัดการ
ข้อร้องเรียนและบัตรสนเท่ห์แก่ผู้บริหารและคณะกรรมการ กฟผ. ในที่ประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม และการประชุมคณะกรรมการกำกับการปฏิบัติตามกฎหมายและ
กฎระเบียบทุกไตรมาส

การประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน

ในปี 2567 กฟผ. จัดให้มีกระบวนการเพื่อประเมินความเสี่ยงและการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence: HRDD) จำนวน 16 หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกับด้านแรงงาน
ด้านชุมชน ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านนักปกป้องสิทธิมนุษยชน และด้านการลงทุน โดยผลการประเมินพบว่า กฟผ. มีความเสี่ยงในการละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจาก
มีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ กฟผ. ต้องดำเนินการตรวจสอบและการติดตามให้ความรู้แก่พนักงานอย่างสม่ำเสมอและครอบคลุมพนักงานทุกระดับ เพื่อให้พนักงานที่อาจมีการ
หมุนเวียนโยกย้ายหรือเข้ารับตำแหน่งใหม่ได้ดำเนินงานโดยคำนึงถึงหลักการด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งจะช่วยลดโอกาสมิให้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากการดำเนินงาน

การดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน

กฟผ. มีการดำเนินการด้านสิทธิมนุษยชนที่สำคัญ อาทิ

  • ด้านแรงงาน : การให้สิทธิและสวัสดิการพนักงานที่สูงกว่าที่กฎหมายกำหนด การประกาศเจตนารมณ์ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ การจ้างคนพิการ การมีสหภาพแรงงานและ
    คณะกรรมการกิจการสัมพันธ์ การจัดโครงสร้างอารยสถาปัตย์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พนักงานทุกกลุ่ม การกำหนดค่านิยมในการดำเนินงาน SPEED ข้อ E Empathy ที่สนับสนุนให้ผู้ปฏิบัติงานรับฟัง
    ความคิดเห็นของผู้อื่น ยอมรับในความแตกต่างที่หลากหลาย
  • ด้านที่ดิน ชุมชน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม : การศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมก่อนการพัฒนาโครงการ โดยบริษัทที่ปรึกษาที่เป็นกลางและมีผู้เชี่ยวชาญที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิ์จัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมถึงมีมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม
  • ด้านนักปกป้องนักสิทธิมนุษยชน : การมีศูนย์จัดการข้อคิดเห็น กฟผ. ที่เปิดรับเรื่องร้องเรียนและ ข้อเสนอแนะผ่านช่องทางที่หลากหลาย มีกระบวนการบริหารจัดการที่ชัดเจน และมีการแจ้งผลการจัดการข้อร้องเรียนให้ผู้ร้องเรียนทราบต่อไป
  • ด้านการลงทุน : การควบคุมผ่าน EGAT Group Way of Conduct (WOC)

การเยียวยา

กฟผ. กำหนดแนวทางการเยียวยาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินงานของ กฟผ. โดยกรณีเป็นผู้ปฏิบัติงาน กฟผ. จะดำเนินการตามระเบียบ กฟผ. ว่าด้วย ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับผู้ปฏิบัติงานที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเพราะเหตุปฏิบัติงานให้แก่ กฟผ. และผู้ปฏิบัติงานที่ถึงแก่ความตาย และกรณีเป็นบุคคลภายนอก กฟผ. จะมีมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากภารกิจของ กฟผ. ในฐานะผู้รับ
ใบอนุญาตประกอบกิจการไฟฟ้านำเงินส่งเข้ากองทุนตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกำหนดให้จัดตั้ง “กองทุนพัฒนาไฟฟ้า” ในพื้นที่ประกาศ
เพื่ออุดหนุนให้กับการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า ตามมาตรา 97(3) แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 รวมทั้งยังมีการกำหนด
ระเบียบ กฟผ. ว่าด้วย การสื่อสารองค์การ การสร้างความสัมพันธ์ และความรับผิดชอบต่อสังคมซึ่งครอบคลุมการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเบื้องต้นให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบด้วย

การใช้แรงงานเด็ก แรงงานเกณฑ์ การเป็นทาสสมัยใหม่ และการร่วมสมาคมและเจรจาต่อรอง [408-1] [409-1] [407-1]  
ประเภทความเสี่ยงต่อกรณีการละเมิด
สิทธิมนุษยชนของแรงงาน
ประเภท
แหล่งดำเนินงาน
ระบุหน่วยงาน/ประเภทดำเนินงาน
ที่มีความเสี่ยง
แหล่งดำเนินงานที่มีความเสี่ยงมาตรการที่ดำเนินการโดยองค์การเพื่อขจัดการละเมิด
สิทธิมนุษยชนของแรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้แรงงานเด็ก (อายุต่ำกว่า 15 ปี หรือต่ำกว่าอายุที่สำเร็จการศึกษาภาคบังคับ)ภายในองค์การไม่พบหน่วยงานและการดำเนินงานที่มีความเสี่ยงมีข้อบังคับ กฟผ. ฉบับที่ 353 ว่าด้วย บุคคล ข้อ 9 (2) กำหนดให้
ผู้ที่จะได้รับการจ้าง การบรรจุ ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ และมีการกำหนดคุณสมบัติของลูกจ้างของผู้รับจ้างใน TOR ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
คู้ค้าหรือ
ผู้ส่งมอบ
หน่วยก่อสร้าง งานจ้างเหมาประเภทแรงงานไร้ฝีมืองานก่อสร้าง
งานดูแลรักษาบริเวณ (ทุกพื้นที่)
การใช้แรงงานเด็ก (อายุมากกว่าอายุทำงานขั้นต่ำที่เกี่ยวข้องและมีอายุต่ำกว่า 18 ปี) ที่สัมผัส หรือเกี่ยวข้องกับงานอันตรายภายในองค์การไม่พบหน่วยงานและการดำเนินงานที่มีความเสี่ยงมีข้อบังคับ กฟผ. ฉบับที่ 353 ว่าด้วย บุคคล ข้อ 9 (2) กำหนดให้
ผู้ที่จะได้รับการจ้าง การบรรจุ ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ มีการกำหนดคุณสมบัติของลูกจ้างของผู้รับจ้างใน TOR ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
คู้ค้าหรือ
ผู้ส่งมอบ
หน่วยก่อสร้าง งานจ้างเหมาประเภทแรงงานไร้ฝีมืองานก่อสร้าง
งานดูแลรักษาบริเวณ (ทุกพื้นที่)
การใช้แรงงานเกณฑ์และแรงงานบังคับภายในองค์การไม่พบหน่วยงานและการดำเนินงานที่มีความเสี่ยง
คู้ค้าหรือ
ผู้ส่งมอบ
ไม่พบหน่วยงานและการดำเนินงานที่มีความเสี่ยง 
การละเมิดสิทธิในการใช้เสรีภาพในการสมาคมหรือการร่วมเจรจาต่อรองภายในองค์การไม่พบหน่วยงานและการดำเนินงานที่มีความเสี่ยงกฟผ. มีสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กฟผ. (สร.กฟผ.) เป็นไปตามพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 และกำกับการดำเนินงานภายใต้ข้อบังคับ สร.กฟผ. พ.ศ. 2563
คู้ค้าหรือ
ผู้ส่งมอบ
ไม่พบการดำเนิน งานที่มีความเสี่ยง
เหตุกรณีการเลือกปฏิบัติและการดำเนินการแก้ไขที่กระทำ [406-1]
ระบุเหตุการณ์
กรณีการเลือกปฏิบัติ
ระบุแผนการ
ดำเนินงานเพื่อแก้ไขเหตุการณ์
เลือกปฏิบัติ
จำนวนเหตุการณ์
ที่เกิดขึ้นในรอบ
การรายงาน
สถานะของเหตุกรณีการเลือกปฏิบัติ
มีการทบทวนโดยองค์กรกำลังดำเนินการแก้ไขตามแผนดำเนินการแล้วและมีการทบทวนผลลัพธ์
ผ่านกระบวนการทบทวน
การบริหารจัดการภายในเป็นประจำ
ไม่ได้อยู่ภายใต้
การดำเนินการอีกต่อไป
0000000
เหตุการณ์การละเมิดสิทธิของชนเผ่าพื้นเมือง [411-1]
การละเมิดสิทธิของชนเผ่าพื้นเมืองจำนวนเหตุการณ์การละเมิดสิทธิของชนเผ่าพื้นเมือง
ปี 2567ปี 2566ปี 2565
กิจกรรมหรือเหตุการณ์การละเมิดสิทธิของชนเผ่าพื้นเมือง000

การจัดการความขัดแย้งและความปลอดภัย

กฟผ. เป็นหน่วยงานที่ดำเนินกิจการโครงสร้างพื้นฐานแห่งชาติด้านพลังงาน จึงจำเป็นต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม หากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมีความรู้ความเข้าใจด้านสิทธิมนุษยชนและกฎหมายที่เกี่ยวข้องจะช่วยหลีกเลี่ยงการละเมิดสิทธิอันอาจนำมาซึ่งอาจนำมาซึ่งความขัดแย้งและข้อพิพาทได้

กฟผ. มีการจัดทำมาตรฐานระบบบริหารจัดการด้านการรักษาความปลอดภัยที่สอดคล้องกับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2552 และมาตรฐานการรักษา
ความปลอดภัยหน่วยงานภาครัฐฝ่ายพลเรือนของสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ตลอดจนมาตรฐานสากลเกี่ยวกับการจัดการด้านรักษาความปลอดภัย (ISO 28000 : 2022) เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานรักษาความปลอดภัยแก่หน่วยงานทั่วทั้งองค์การ โดยให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานรักษาความปลอดภัย

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ กฟผ. ได้รับการฝึกอบรมความรู้ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ได้แก่ หลักสูตรการปฏิบัติการรักษาความปลอดภัย และหลักสูตร
การดำเนินงานรักษาความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน ซึ่งมีเนื้อหาด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัย เช่น สิทธิในการป้องกันตัวและการกระทำโดยจำเป็นตามประมวลกฎหมายอาญา ระดับ
การใช้กำลัง สิทธิในการจับกุม และการตรวจค้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา รวมถึงการกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยในปี 2567 มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กฟผ.
ทั่วประเทศ เข้ารับการอบรมทั้งสิ้น 176 คน จากจำนวนทั้งหมด 209 คน คิดเป็นร้อยละ 84.21 อีกทั้งยังมีการสื่อสารและชี้แจงแนวทางการดำเนินงานรักษาความปลอดภัยที่เน้นย้ำหลักการด้าน
สิทธิมนุษยชนผ่านเวทีการประชุมต่าง ๆ เช่น การประชุมหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยทั่วประเทศ และการเรียกแถวความพร้อม [410-1] 

สำหรับพนักงานรักษาความปลอดภัยจ้างเหมา กฟผ. ได้กำหนดคุณสมบัติในเงื่อนไขขอบเขตงานจ้างว่า ต้องเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ได้รับอนุญาตและได้รับการฝึกอบรมครบถ้วนตาม
พระราชบัญญัติธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558 รวมทั้งกำหนดให้ผู้รับจ้างจัดฝึกอบรมทบทวนพนักงานรักษาความปลอดภัยจ้างเหมาเป็นระยะ ตลอดระยะเวลาของสัญญา  

นอกจากนี้ กฟผ. ยังจัดให้มีช่องทางการรับเรื่องร้องเรียน สำหรับการจัดการผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้น โดยเมื่อได้รับข้อร้องเรียน กฟผ. จะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง หากปรากฎว่ามีความผิดจริง
ตามที่ร้องเรียน หน่วยงานจะดำเนินการลงโทษทางวินัยตามระเบียบ กฟผ. กรณีเป็นพนักงาน กฟผ. หรือดำเนินการแจ้งไปยังผู้รับจ้าง เพื่อให้ดำเนินการลงโทษตามระเบียบของผู้รับจ้าง กรณีที่เป็นพนักงาน
รักษาความปลอดภัยจ้างเหมา จากนั้นจะแจ้งผลการจัดการข้อร้องเรียนให้กับผู้ร้องเรียนทราบต่อไป