การบริหารจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
กฟผ. มุ่งมั่นในการเป็นองค์การหลักด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศ ควบคู่กับการสร้างความเชื่อมั่นและคุณค่าร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอกอย่างเหมาะสมและยั่งยืน
เป้าหมายปี 2567 | ผลการดำเนินงาน |
● ระดับความผูกพันของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากระดับความผูกพันปีฐาน (ปี 2565) | ● ระดับความผูกพันของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.78 จากระดับความผูกพันปีฐาน (ปี 2565) |
● จำนวนประเด็นความต้องการและความคาดหวังที่สำคัญของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ที่ได้รับการบริหารจัดการ เท่ากับร้อยละ 75 | ● จำนวนประเด็นความต้องการและความคาดหวังที่สำคัญของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ที่ได้รับการบริหารจัดการ เท่ากับร้อยละ 85.71 |
● จำนวนข้อร้องเรียนที่ได้รับการปิดหรือแก้ไขภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ลงทะเบียนรับ เท่ากับ ร้อยละ 60 | ● จำนวนข้อร้องเรียนที่ได้รับการปิดหรือแก้ไขภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ลงทะเบียนรับ เท่ากับ ร้อยละ 76.29 |
● มีช่องทางรับเรื่องร้องเรียนที่เปิดบนเว็บไซต์ที่เป็นสาธารณะ | ● มีช่องทางรับเรื่องร้องเรียนที่เปิดบนเว็บไซต์ กฟผ. ซึ่งเป็นสาธารณะ |
นโยบายและความมุ่งมั่น
กฟผ. กำหนดนโยบายด้านการบริหารจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงมีการระบุแนวปฏิบัติที่ดีตามนโยบายด้านการบริหารจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในคู่มือการกำกับดูแลกิจการที่ดีของ กฟผ. เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินงานบริหารจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วทั้งองค์การ

โครงสร้างการดำเนินงาน
กฟผ. มีสายงานรองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ทำหน้าที่กำหนดแนวทาง ติดตาม และประเมินผลการบริหารจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระดับองค์การและระดับหน่วยงาน เพื่อให้ทุกหน่วยงานมีแนวทางการดำเนินงานและติดตามประเด็นตอบสนองต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียไปในทิศทางเดียวกัน อีกทั้งยังมีการกำหนดสายงานผู้รับผิดชอบผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละกลุ่มที่สอดคล้องกับห่วงโซ่คุณค่าและภารกิจของหน่วยงาน นอกจากนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าการสานสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กฟผ. ได้คัดเลือกรูปแบบและช่องทางการสานสัมพันธ์ที่เหมาะสมกับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงจัดประชุม
เชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและพัฒนาทักษะแก่ผู้ปฏิบัติงานที่รับผิดชอบงานเกี่ยวกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง ในด้านการวิเคราะห์ประเด็นและด้านการสานสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

การบริหารจัดการ
กฟผ. บริหารจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตามมาตรฐานการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย AA 1000 Stakeholder Engagement Standard: AA1000SES และขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสียผ่านแผนแม่บทบริหารจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งมีการสื่อสารให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบและจัดทำแผนปฏิบัติการรองรับ รวมทั้งมีการติดตามผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการฯ และนำเสนอ
ต่อที่ประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นรายไตรมาส เพื่อรับความเห็นและข้อเสนอแนะมาปรับปรุงการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย โดยในปี 2567 กฟผ. สามารถดำเนินการตามแผนได้ร้อยละ 100 ตามเป้าหมาย โดยมีการดำเนินงานสำคัญร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มต่าง ๆ อาทิ
- ความร่วมมือกับ กฟน. และ กฟภ. ในการจัดงานแสดงผลงานนวัตกรรม (Show and Share Innovation for the Better Life) เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการวิจัยพัฒนา สิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรม รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาต่อยอด ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของผู้บริโภค
- ความร่วมมือกับสถาบันอาหารในการต่อยอดวิสาหกิจชุมชนที่เข้มแข็ง ผลักดันผลิตภัณฑ์อาหารจากชุมชนรอบพื้นที่ กฟผ. สู่การยอมรับทั้งในและต่างประเทศ มุ่งเป้าหมายชุมชนมีรายได้เพิ่มและเติบโตอย่างยั่งยืน
- การร่วมศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์กับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเป็นทางเลือกในการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานสะอาด ขับเคลื่อนประเทศสู่
เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน สร้างความมั่นคงทางพลังงานและสภาพแวดล้อมที่ดีของคนไทยอย่างยั่งยืน - โครงการพัฒนาต้นแบบสถานีอัดประจุไฟฟ้าพร้อมพื้นที่ให้บริการเต็มรูปแบบ เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสำหรับการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ระหว่างกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และ กฟผ.
- การประชุมร่วมกับการไฟฟ้าฝรั่งเศส (EDF) ในเวที Thailand – France Business Forum ที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนของไทยและฝรั่งเศส โดยหารือในเรื่องแนวทาง
ความร่วมมือเกี่ยวกับการศึกษาพัฒนาเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก (Small Modular Reactor: SMR) เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีที่มีศักยภาพ การออกแบบและความปลอดภัยของ
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบโมดูลขนาดเล็ก การจัดการเชื้อเพลิงที่ใช้แล้ว การพัฒนาขีดความสามารถ รวมถึงการสื่อสารสาธารณะ ซึ่งจะช่วยเพิ่มทางเลือกการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด เป็นมิตรต่อ
สิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศในอนาคต
นอกจากนี้ ยังมีการทบทวนและปรับปรุงนโยบายด้านการบริหารจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กระบวนการดำเนินงานด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและลูกค้า และคู่มือปฏิบัติงาน Protocol ด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กฟผ. เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้มีประสิทธิภาพ โดยใช้ประเด็นสำคัญที่ได้จากการสำรวจระดับความผูกพันของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและประเด็นจากการสานสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของทุกหน่วยงานเป็นปัจจัยนำเข้า รวมถึงมีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องการบริหารจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้หน่วยงาน 1) วิเคราะห์และระบุผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตามห่วงโซ่คุณค่าหรือภารกิจ 2) จัดลำดับความสำคัญของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้วยเกณฑ์ผลกระทบและการมีส่วนได้เสีย (Impact and Dependency) 3) ระบุประเด็นความต้องการ ความคาดหวัง และปัญหาอุปสรรค
ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และ 4) คัดเลือกประเด็นฯ พร้อมจัดทำแผนปฏิบัติการ โครงการ หรือกิจกรรมเพื่อตอบสนองประเด็นดังกล่าว
การระบุผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
การระบุผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของ กฟผ. มี 2 ระดับ ได้แก่ ระดับภาพรวมองค์การ ซึ่งระบุโดยฝ่ายกลยุทธ์ความยั่งยืน โดยพิจารณาจากบทบาทหน้าที่และภารกิจของ กฟผ. และระดับหน่วยงาน ซึ่งระบุโดย
หน่วยงานระดับฝ่ายและโครงการที่เป็นเจ้าของกระบวนการ โดยพิจารณาว่า กระบวนการดำเนินงานแต่ละขั้นตอนของหน่วยงานเกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใดบ้าง โดยในปี 2567 กฟผ. ยังคงจำแนก
กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียขององค์การเป็น 11 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย | คำนิยาม |
ภาครัฐและ ผู้กำกับดูแล | ● ภาครัฐหรือองค์กรอิสระ ผู้กำหนดนโยบายหรือกำกับนโยบายด้านพลังงานและด้านอื่น ๆ ของ กฟผ. ● ภาครัฐหรือองค์กรอิสระ ผู้อนุมัติ อนุญาต หรือที่ต้องติดต่อประสานงานเพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของ กฟผ. ● ผู้ถือหุ้นของ กฟผ. ได้แก่ กระทรวงการคลัง |
คณะกรรมการ กฟผ. | ● คณะกรรมการ กฟผ. และคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ที่มีตัวแทนคณะกรรมการ กฟผ. เป็นองค์ประกอบ |
ชุมชน | ● ชุมชนรอบหน่วยงาน บริเวณระบบส่งและโครงการต่าง ๆ ของ กฟผ. และที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานสำคัญของ กฟผ. ● ชุมชนสำคัญตามที่ กฟผ. กำหนดหรือนิยาม นอกเหนือจากที่กำหนดข้างต้น |
พนักงานและสหภาพแรงงาน | ● ผู้บริหาร พนักงาน พนักงานสัญญาจ้าง สหภาพแรงงาน และพนักงานเกษียณหรืออดีตพนักงานที่เกี่ยวข้องของ กฟผ. ● หน่วยงานหรือคณะทำงานภายในของ กฟผ. |
ลูกค้าและผู้ใช้ไฟฟ้า | ● การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และลูกค้าตรงตามพระราชกฤษฎีกากำหนดผู้ใช้พลังงานไฟฟ้าลูกค้าธุรกิจเกี่ยวเนื่องและธุรกิจใหม่ของ กฟผ. ● ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าและประชาชนทั่วไป |
สื่อมวลชน | ● เครือข่ายสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม เช่น หนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ ทั้งส่วนกลางและท้องถิ่น ● เครือข่ายสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) |
พันธมิตรธุรกิจ | ● บุคคลหรือนิติบุคคล ที่เป็นผู้ส่งมอบ คู่ค้า ผู้รับจ้าง หรือผู้รับเหมาในธุรกิจผลิตและส่งไฟฟ้า ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง และในภารกิจสำคัญของ กฟผ. ● คู่ความร่วมมือในภารกิจสนับสนุนหรือภารกิจอื่นของ กฟผ. นอกเหนือจากที่กำหนดข้างต้น |
บริษัทในเครือ | ● บริษัทลูกหรือบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วม ที่ กฟผ. เข้าไปลงทุนหรือถือหุ้นโดยตรง |
นักวิชาการและ ประชาสังคม | ● กลุ่มผู้นำความคิด ผู้มีอิทธิพลทางความคิด กลุ่มนักพัฒนา หรือกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินงานของ กฟผ. |
การเงิน | ● สถาบันการเงินที่มีส่วนในการทำธุรกรรมทางการเงินกับ กฟผ. ● เจ้าหนี้ |
คู่แข่ง | ● คู่แข่งและคู่เปรียบเทียบ (Benchmark) ทั้งในธุรกิจผลิตและส่งไฟฟ้า ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง และธุรกิจใหม่ของ กฟผ. |
การจัดลำดับความสำคัญผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
กฟผ. จัดลำดับความสำคัญของผู้มีส่วนได้เสียโดยพิจารณาจากค่าเฉลี่ยเกณฑ์การประเมินระดับอิทธิพลของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีผลต่อการดำเนินงานของ กฟผ. (Impact) และค่าเฉลี่ยเกณฑ์การประเมินระดับการมีส่วนได้ส่วนเสียหรือมีผลกระทบจากดำเนินงานของ กฟผ. ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Dependency)

การสานสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย [2-29]
กฟผ. ดำเนินการสานสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อรับฟังความต้องการ ความคาดหวัง หรือข้อกังวลจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในหลากหลายรูปแบบ โดยนอกจากจะพิจารณาตามลักษณะของผู้มีส่วนได้
ส่วนเสียแต่ละกลุ่มแล้ว ยังคำนึงถึงประเด็นสำคัญอื่น ๆ อาทิ ความแตกต่างด้านภาษาและวัฒนธรรม การแบ่งกลุ่มย่อยหรือความขัดแย้งภายในชุมชน และการเก็บข้อมูลที่สอดคล้องกับพระราชบัญญัติ
คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)
ตัวอย่างการสานสัมพันธ์ที่สำคัญ อาทิ การสำรวจความผูกพันผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งมีกำหนดดำเนินการทุก 2 ปี และดำเนินการล่าสุดในปี 2567 โดยผลการสำรวจพบว่า ในภาพรวมผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
มีความผูกพันกับ กฟผ. ในระดับสูง และเป็นความผูกพันแบบ Supportive กล่าวคือ แสดงออกถึงความเชื่อมั่นและมีทัศนคติเชิงบวกต่อ กฟผ. แสดงพฤติกรรมตามบทบาทหน้าที่หรือข้อตกลงที่มีระหว่างกัน
ได้เป็นอย่างดี และเต็มใจสนับสนุนการทำงานของ กฟผ.
การสานสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จำแนกตามกลุ่ม
กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย | ช่องทางการสานสัมพันธ์ | ผู้รับผิดชอบ | ประเด็น | การตอบสนอง | |
หลัก (Tier 1) | ร่วม/ผู้ปฏิบัติ (Tier 2) | ||||
1. ภาครัฐและ ผู้กำกับดูแล (รายไตรมาส) | • การประชุม เสวนา และกิจกรรมร่วม (อย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง) • การตรวจติดตามการดำเนินงาน กฟผ. ตามนโยบายของหน่วยงานกำกับดูแล (อย่างน้อย ปีละ 1-2 ครั้ง) • การเข้าร่วมรัฐพิธี และกิจกรรมสัมพันธ์ (ปีละ 4-5 ครั้ง) • การสำรวจระดับความผูกพัน ทุก 2 ปี • ช่องทางรับความคิดเห็นและข้อร้องเรียน การสื่อสารผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ รวมถึง Social Media • Call Center 1416 | • สายงานรองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ | • ทุกสายงาน | • ข้อมูลการผลิตไฟฟ้าที่ถูกต้อง ครบถ้วน ทันต่อเหตุการณ์ • ปฏิบัติตามกฎหมายและ พ.ร.บ. • สนับสนุน/ร่วมมือในกิจกรรมของภาครัฐ เช่น รัฐกิจสัมพันธ์ การเสียภาษี/ค่าธรรมเนียมตามที่กำหนด ดำเนินงานตามนโยบายพลังงานสะอาด มีแนวทางลดการปล่อยคาร์บอนจากพลังงาน เป็นต้น • สนับสนุนข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณารวดเร็ว ทันต่อการณ์ | • มีหน่วยงานที่นำยุทธศาสตร์/พ.ร.บ./กฎหมายมาปรับปัจจัยนำเข้าในการกำหนดยุทธศาสตร์องค์กร • สื่อสารและสร้างความเข้าใจภารกิจ กฟผ. อย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น กิจกรรมรัฐกิจสัมพันธ์ การศึกษาดูงานภารกิจ กฟผ. รวมถึงช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ และโซเชียลมีเดีย • จัดทำโครงการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและผู้กำกับนโยบาย • ส่งเสริมการดำเนินงานตามมาตรฐานเพื่อนำองค์กร ไปสู่ความยั่งยืน • รายงาน EIA/EHIA • ปรับปรุงกระบวนการทำงานระหว่าง กฟผ. กับ หน่วยงานภาครัฐที่สำคัญ • จัดทำนโยบายและแนวปฏิบัติด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย |
2. คณะกรรมการ กฟผ. (รายไตรมาส) | • การประชุมคณะกรรมการ (รายไตรมาส) • กิจกรรมสานสัมพันธ์หรือรัฐกิจสัมพันธ์ (อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง) • การสำรวจระดับความผูกพัน ทุก 2 ปี | • สำนักเลขานุการองค์การ | • ทุกสายงาน | • ดำเนินกิจการด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และปฏิบัติตามกฎหมายและ พ.ร.บ. • การประชุมคณะกรรมการเป็นไปตามกรอบเวลา และมาตรฐานการประชุม • รายงานผลการดำเนินงานของ กฟผ. ต่อที่ประชุมเพื่อนำไปสู่การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามภารกิจ • สามารถปรับตัวต่อความท้าทาย ความผันผวน และการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ • มีอิสระในการแสดงความคิดเห็นในที่ประชุม • รายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายที่มอบหมาย • กิจกรรมเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจภารกิจ กฟผ. • เพิ่มการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการในกระบวนการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ที่สำคัญของ กฟผ. | • สื่อสารและสร้างความเข้าใจภารกิจ กฟผ. อย่างต่อเนื่อง • ปรับปรุงกระบวนการจัดประชุมให้เป็นไปตามมาตรฐาน • ดำเนินการแก้ไขตามข้อเสนอแนะ และข้อคิดเห็นจากมติที่ประชุม • สนับสนุนข้อมูลการดำเนินงานเมื่อคณะกรรมการมีข้อซักถามหรือข้อสงสัย • เพิ่มการใช้ระบบเทคโนโลยี (Digital Transformation) เพื่อพัฒนาคุณภาพงาน/ปรับปรุงกระบวนการในการตอบสนองต่อประเด็นความต้องการความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย • รายงานผลการดำเนินงานต่อคณะกรรมการ รายไตรมาส • ดำเนินงานตามนโยบายกฎหมาย พ.ร.บ. และมาตรฐานเพื่อนำองค์การไปสู่ความยั่งยืน |
3. ชุมชน (รายเดือน) | • การประชุม เสวนา และกิจกรรมชุมชนสัมพันธ์รอบพื้นที่ (อย่างน้อยเดือนละ 10-12 ครั้ง) • โครงการ CSR ต่าง ๆ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม • การสำรวจระดับความผูกพัน ทุก 2 ปี • ช่องทางรับความคิดเห็นและข้อร้องเรียน • การสื่อสารผ่านป้ายประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชนท้องถิ่น • Call Center 1416 | • สายงานรองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน • สายงานรองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า • รองผู้ว่าการปฏิบัติการระบบส่ง • สายงานรองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ • สายงานรองผู้ว่าการเชื้อเพลิง | • สายงานรองผู้ว่าการธุรกิจเกี่ยวเนื่อง • สายงานรองผู้ว่าการบริหาร | • จัดการสิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัย/ความปลอดภัย และบริหารการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ • พัฒนาคุณภาพชีวิต เคารพต่อสิทธิชุมชน การส่งเสริม สาธารณสมบัติเทคโนโลยีอย่างง่ายในชุมชน • รับฟังความคิดเห็น การสื่อสารสองทาง การสานเสวนา การเปิดเผยข้อมูล • มีส่วนร่วมในการกำหนดแผนงาน/โครงการในพื้นที่ร่วมกับ กฟผ. | • โครงการ CSR และชุมชนสัมพันธ์ในพื้นที่ที่ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิต • กำหนดหน่วยงานผู้รับผิดชอบที่ชัดเจนในการดูแลและพัฒนาชุมชนอย่างยืน • นำผลการสำรวจฯ มาปรับปรุงกระบวนการดำเนินการร่วมกับชุมชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน • เพิ่มการมีส่วนร่วมของชุมชนในการกำหนดแผนงาน/กิจกรรมในพื้นที่ • จัดทำนโยบายและแนวปฏิบัติด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย • จัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของชุมชนต่อการพัฒนาโครงการในพื้นที่ |
4. พนักงานและสหภาพแรงงาน (รายเดือน) | • ผู้บริหารพบปะผู้ปฏิบัติงาน (อย่างน้อยปีละ 2-4 ครั้ง) • กิจกรรม Synergy ระดับฝ่ายหรือสายงาน (อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง) • การสำรวจความพึงพอใจและความผูกพันประจำปี • ช่องทางรับความคิดเห็นและข้อร้องเรียน • การสื่อสารผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ รวมถึง Social Media • รายงานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน • Microsoft VIVA Engage • Call Center 1416 • Townhall | • สายงานรองผู้ว่าการบริหาร | • ทุกสายงาน | • มีความมั่นคงในการจ้างงาน สัญญาจ้าง การปฏิบัติตามกฎหมายด้านแรงงาน • กำหนดค่าตอบแทนที่เป็นธรรม และสวัสดิการนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด • มีโอกาสในการพัฒนาความสามารถและการทำงานอย่างมืออาชีพอย่างเท่าเทียม • ส่งเสริมการต่อต้านการทุจริตทั้งในและนอกองค์การ รวมถึงการมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างรับผิดชอบ • เตรียมความคุ้มครองสำหรับกลุ่มที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ • เปิดโอกาสให้มีการรวมกลุ่มเพื่อเจรจาต่อรอง การเข้าถึงผู้บริหาร • มีช่องทางร้องเรียนที่รักษาความลับเพื่อความปลอดภัยของผู้แจ้ง • มีพื้นที่ในการรับฟังปัญหา และให้พนักงานสามารถแสดงความคิดเห็นต่อองค์การได้อย่างเต็มที่ | • นำหลักสิทธิมนุษยชน และมาตรฐานสากล และผล การสำรวจฯ ประกอบการกำหนดแนวปฏิบัติกับพนักงาน • เพิ่มช่องทางการสื่อสารแบบสองทางระหว่างผู้บริหารกับผู้ปฏิบัติงานผ่านช่องทางต่าง ๆ • มีแผนพัฒนาบุคลากรที่เหมาะสมกับงานที่ได้รับมอบหมาย ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงได้ • มีการปรับปรุงสวัสดิการพนักงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน • ส่งเสริมให้ผู้ปฏิบัติงานตระหนักในเรื่องการมีจิตอาสา และความรับผิดชอบต่อสังคม • จัดให้มี Co-working Space สำหรับผู้ปฏิบัติงาน • มีนโยบาย Hybrid Working ที่เพิ่มความสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว • จัดให้มีสิทธิการเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลคนไข้นอก (OPD) • มีแนวปฏิบัติที่ดีในการหลีกเลี่ยงการคุกคามทางเพศ • ส่งเสริมและให้บริการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย สภาพแวดล้อมในการทำงาน และการกำกับการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อให้มั่นใจว่าทุกหน่วยงานปฏิบัติสอดคล้องกับกฎหมายและมาตรฐาน |
5. ลูกค้าและ ผู้ใช้ไฟฟ้า (รายไตรมาส) | • การประชุม เสวนา และกิจกรรมร่วม (อย่างน้อยปีละ 2-4 ครั้ง) • การเยี่ยมเยียน พบปะลูกค้า หรือสัมภาษณ์ เพื่อสอบถามความต้องการ ความคาดหวัง (อย่างน้อยไตรมาสละ 1 ครั้ง) • การสำรวจความพึงพอใจและความผูกพันประจำปี • การสำรวจระดับความผูกพัน ทุก 2 ปี • ช่องทางรับความคิดเห็นและข้อร้องเรียน • การสื่อสารผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ รวมถึง Social Media • รายงานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน • Call Center 1416 | • สายงานรองผู้ว่าการปฏิบัติการระบบส่ง • สายงานรองผู้ว่าการธุรกิจเกี่ยวเนื่อง • สายงานรองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ • สายงานรองผู้ว่าการเชื้อเพลิง | • ทุกสายงาน | • ทำสัญญาที่เป็นธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ • ให้บริการที่มีคุณภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การมีข้อมูลการบริการที่ถูกต้องครบถ้วน ตรงต่อเวลา บริการหลังการขายที่ดี • มีมาตรการรักษาความลับของลูกค้า มาตรการตอบสนองต่อข้อร้องเรียน • การสร้างความตระหนักเรื่องการบริโภคอย่างยั่งยืน • บุคลากรที่มีทักษะในการประสานงานและการสื่อสารให้เกิดความเข้าใจได้ • คุณภาพในการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียน | • พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ได้มาตรฐานทั้งคุณภาพ ความปลอดภัย และตอบสนองต่อความต้องการของตลาด • การบริหารจัดการต้นทุนผลิตภัณฑ์และบริการ • สื่อสารและสร้างความเข้าใจภารกิจ กฟผ. รวมถึงสร้างความตระหนักเรื่องการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ • นำข้อคิดเห็นจากผลสำรวจฯ ไปปรับปรุงกระบวนการทำงาน มาตรการตอบสนองต่อข้อร้องเรียน และกฎบัตรมาตรฐานการบริการ • เพิ่มการใช้ระบบเทคโนโลยี (Digital Transformation) เพื่อพัฒนาคุณภาพงาน/ปรับปรุงกระบวนการในการตอบสนองต่อประเด็นความต้องการความคาดหวังของลูกค้า • ดำเนินการปรับปรุงระบบสื่อสารให้พร้อมใช้ ทั้งระบบวิทยุสื่อสารและช่องทางดิจิทัลต่าง ๆ รวมทั้งมีการช่องทางประสานแจ้งเหตุ เช่น ระบบจัดการข้อคิดเห็นและข้อร้องเรียน และ Mobile Application • มีการกำหนดรอบการเปลี่ยนอุปกรณ์เพื่อให้การจ่ายไฟเป็นไปตามที่ตกลง • วางแผน Substation ร่วมกันกับ กฟภ. กฟน. เพื่อแก้ปัญหาไฟตก ไฟดับ ไฟกะพริบ • นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการติดตาม ตรวจสอบ วางแผนเปลี่ยนอุปกรณ์ที่หมดอายุการใช้งาน เช่น การตรวจสอบโครงสร้างเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงด้วยเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับ (Drone) การใช้ระบบตรวจจับฟ้าผ่า (Lightning Location System: LLS) ในการออกแบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูง • มีแผนแม่บทลูกค้าและตลาด • จัดทำนโยบายและแนวปฏิบัติด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย |
6. สื่อมวลชน (รายเดือน) | • การประชุม เสวนา และกิจกรรมร่วมกัน (อย่างน้อยเดือนละ 5-10 ครั้ง) • การสำรวจระดับความผูกพัน ทุก 2 ปี • ช่องทางรับความคิดเห็นและข้อร้องเรียน • การสื่อสารผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ รวมถึง Social Media • Call Center 1416 | • สายงานรองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ | • สายงานรองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน • สายงานรองผู้ว่าการบริหาร • สายงานรองผู้ว่าการเชื้อเพลิง • สายงานรองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า • สายงานรองผู้ว่าการปฏิบัติการระบบส่ง | • ข้อมูลข่าวสารถูกต้อง ทันต่อเหตุการณ์ข้อมูลมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ • คาดหวังให้ปรับปรุง Protocol ขั้นตอนกระบวนการ ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร • ต้องการข้อมูลที่มีแหล่งอ้างอิงเชื่อถือได้ และข้อมูลข่าวสารที่มีผลกระทบต่อผู้ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า เช่น ค่าไฟฟ้า ค่า Ft | • สื่อสารและสร้างความเข้าใจภารกิจ กฟผ. อย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น กิจกรรมรัฐกิจสัมพันธ์ การศึกษาดูงานภารกิจ กฟผ. รวมถึงช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ และสื่อโซเชียลมีเดีย • จัดทำข้อมูล สื่อประชาสัมพันธ์ในประเด็นที่ประชาชน และสื่อมวลชนให้ความสนใจในรูปแบบที่เข้าใจง่ายทางเว็บไซต์ กฟผ. • จัดทำนโยบายและแนวปฏิบัติด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย |
7. พันธมิตรธุรกิจ (รายปี) | • การสัมมนา เยี่ยมเยียน พบปะคู่ค้า หรือสัมภาษณ์เพื่อสอบถามความต้องการ ความคาดหวัง (อย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง) • การสำรวจความพึงพอใจและความผูกพันประจำปี การสำรวจระดับความผูกพัน ทุก 2 ปี • ช่องทางรับความคิดเห็นและข้อร้องเรียน • การสื่อสารผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ รวมถึง Social Media • รายงานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน • Call Center 1416 | • สายงานรองผู้ว่าการบริหาร | • ทุกสายงาน | • การคัดเลือกและการบริหารสัญญาที่เป็นธรรม • ประเด็นความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทาน เช่น สิทธิมนุษยชน • ความสามารถในการส่งมอบ รวมถึงการมีสัญญา/เงื่อนไขจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นธรรม ความโปร่งใส/ ความเท่าเทียมในการจัดซื้อจัดจ้างและประมูลงาน • มีเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้าง การตรวจสอบและประเมิน ที่คำนึงถึงสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม • เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมกับองค์การในการพัฒนาผลิตภัณฑ์/บริการ และการบริหารจัดการทรัพยากร การพัฒนาทักษะ การเคารพสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญา • สื่อสารกระบวนการและประชาสัมพันธ์ช่องทางรับฟังความคิดเห็นหรือข้อร้องเรียนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้กับกลุ่มคู่ค้า/ผู้ส่งมอบให้มีความชัดเจน | • กำหนดนโยบายด้านการจัดหาอย่างยั่งยืน (Green Procurement) และแนวทางปฏิบัติสำหรับคู่ค้าธุรกิจ • ปรับปรุงแนวทางและกระบวนการ กฟผ. ให้ง่ายต่อการทำงานร่วมกับคู่ค้า เช่น จัดประชุมร่วมกับคู่ค้า/ ผู้ประกอบการ เพื่อทำความเข้าใจในขั้นตอนการปฏิบัติงานของ กฟผ. • เพิ่มช่องทางจ่ายเงินให้คู่ค้าโดยวิธีโอนเงิน • จรรยาบรรณ กฟผ. และแบบประเมินจริยธรรมคู่ค้า • ส่งเสริมให้คู่ธุรกิจตระหนักในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม • ส่งเสริมผู้ส่งมอบ (ผลิตภัณฑ์ชุมชน) ในท้องถิ่นเป็นคู่ค้า • มีแนวปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ • มีแนวปฏิบัติที่ดีตามนโยบายการจัดการข้อร้องเรียน • จัดทำนโยบายและแนวปฏิบัติด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย • มีคู่มือการจัดการข้อคิดเห็นและบัตรสนเท่ห์ ฉบับปรับปรุงปี 2566 พร้อมทั้งจัดให้มีการประเมิน ความพึงพอใจประจำปี |
8. บริษัทในเครือ (รายไตรมาส) | • การประชุมคณะผู้บริหาร กฟผ. และบริษัทในเครือ (ราย 2 เดือน) • กิจกรรมสานสัมพันธ์หรือรัฐกิจสัมพันธ์ (อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง) • การสำรวจความพึงพอใจและความผูกพันประจำปี • การประสานงานผ่านทางโทรศัพท์ในระดับปฏิบัติการ • รายงานประจำปี หรือรายงานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน • ช่องทางรับความคิดเห็นและข้อร้องเรียน • การสื่อสารผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ รวมถึง Social Media • Call Center 1416 • Business Development Team Meeting | • สายงานรองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ | • ทุกสายงาน | • ทิศทางการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน เพื่อพัฒนาธุรกิจให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ กฟผ. • สามารถดำเนินกิจการตามมาตรฐานของตลาดหลักทรัพย์ • กิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารระดับสูงของ กฟผ. กับบริษัทในเครือ กฟผ. อิสระในการตัดสินใจ และการบริหารในเชิงธุรกิจ • ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในทุกมิติของการดำเนินงานระหว่าง กฟผ. และบริษัทในเครืออย่างต่อเนื่อง | • สื่อสารและสร้างความเข้าใจภารกิจ กฟผ. อย่างต่อเนื่อง • กิจกรรมสัมพันธ์ระหว่าง กฟผ. และบริษัทในเครือ • การลงทุนและความร่วมมือในโครงการต่าง ๆ ระหว่าง กฟผ. และบริษัทในเครือ • จัดทำ EGAT Way of Conduct เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจนระหว่าง กฟผ. และบริษัทในเครือ • จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนรู้ Business Development Team ระหว่างกลุ่ม กฟผ. เพื่อประชุม/พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น/สื่อสารข้อมูลด้านวิจัยและนวัตกรรม • เชิญผู้บริหารของบริษัทในกลุ่ม กฟผ. เข้าร่วมกิจกรรมรัฐกิจสัมพันธ์ระหว่าง กฟผ. กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มภาครัฐและผู้กำกับดูแล |
9. นักวิชาการและประชาสังคม (รายปี) | • รับฟังและสื่อสารแลกเปลี่ยนผ่านเวทีเสวนา งานวิจัย หรือการทำงานร่วมกัน (อย่างน้อยปีละ 3-4 ครั้ง) • การสำรวจระดับความผูกพัน (ทุก 2 ปี) • ช่องทางรับความคิดเห็นและข้อร้องเรียน • การสื่อสารผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ รวมถึง Social Media • Call Center 1416 | • สายงานรองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ | • สายงานรองผู้ว่าการธุรกิจเกี่ยวเนื่อง • สายงานรองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน • สายงานรองผู้ว่าการบริหาร • สายงานรองผู้ว่าการเชื้อเพลิง • สายงานรองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า • สายงานรองผู้ว่าการปฏิบัติการระบบส่ง | • เปิดเผยข้อมูลตามข้อเท็จจริง/เหมาะสมตามช่วงเวลา บริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม/การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ • ประชาชนให้ความสำคัญในเรื่องของความมั่นคง เพียงพอของการจ่ายกระแสไฟฟ้า ระบบไฟฟ้ามั่นคง ไฟไม่ตกไม่ดับ • กิจกรรม/โครงการด้านพลังงานที่ประชาชนและผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ • กฟผ. เป็นต้นแบบการคิดค้นนวัตกรรมพลังงาน | • สื่อสาร สร้างความเข้าใจภารกิจ กฟผ. และแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ผ่านเวทีเสวนา เวทีสาธารณะ • มีช่องทางที่เหมาะสมให้สามารถเข้าถึงข้อมูลการดำเนินงาน กฟผ. เช่น การจัดทำรายงาน EIA/EHIA การดำเนินงานตามภารกิจของ กฟผ. บนเว็บไซต์ และสื่อสังคมออนไลน์ • ดำเนินโครงการต่าง ๆ อย่างมีส่วนร่วม โดยประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ชุมชนนักวิชาการและประชาสังคมในพื้นที่ • จัดทำนโยบายและแนวปฏิบัติด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย • จัดงานแสดงนวัตกรรมด้านพลังงานไฟฟ้า Show and Share, Innovation for the Better Life ร่วมกับ กฟน. กฟภ. • มีแผนแม่บทนวัตกรรม กฟผ. เพื่อให้การสร้างสรรค์นวัตกรรมเป็นรูปธรรม มีประสิทธิภาพ |
10. การเงิน (รายปี) | • การประชุม หรือกิจกรรมร่วม (อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง) รายงานประจำปี หรือรายงานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน • การสำรวจความพึงพอใจและความผูกพันประจำปี • การสำรวจระดับความผูกพัน (ทุก 2 ปี) • ช่องทางรับความคิดเห็นและข้อร้องเรียน • การสื่อสารผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ รวมถึง Social Media • Call Center 1416 | • สายงานรองผู้ว่าการบัญชี | • สายงานรองผู้ว่าการธุรกิจเกี่ยวเนื่อง • สายงานรองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ • สายงานรองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า • สายงานรองผู้ว่าการปฏิบัติการระบบส่ง | • ชําระหนี้สินตรงตามกำหนด • ดำเนินกิจการด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ • บริหารจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม • ปฏิบัติตามสัญญางานธุรกรรมทางการเงินระหว่าง กฟผ. กับสถาบันทางการเงิน | • ทบทวนและวางแผนการดำเนินงานในการจัดทำ รายงานฯ และนำส่งงบการเงินให้แล้วเสร็จตามกำหนด โดยมีการกำหนดเป็นตัวชี้วัด (KPI) ในการทำงาน และมีการประชุม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง • จัดกิจกรรมสัมพันธ์ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจภารกิจ กฟผ. • จัดทำนโยบายและแนวปฏิบัติด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย |
11. คู่แข่ง (รายปี) | • รายงานประจำปีหรือรายงานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน • การสำรวจระดับความผูกพัน (ทุก 2 ปี) • ช่องทางรับความคิดเห็นและข้อร้องเรียน • การสื่อสารผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ รวมถึง Social Media • Call Center 1416 | • สายงานรองผู้ว่าการปฏิบัติการระบบส่ง • สายงานรองผู้ว่าการธุรกิจเกี่ยวเนื่อง | • ทุกสายงาน | • เสนอขายไฟฟ้าตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ของ กฟผ. และมีราคาที่เหมาะสม • การแข่งขันทางการตลาดที่เป็นธรรม • เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมกับ กฟผ. ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์/บริการด้านพลังงาน | • มีแนวปฏิบัติที่ดีตามนโยบายเพื่อการแข่งขันที่เป็นธรรม • จัดทำนโยบายและแนวปฏิบัติด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย • นำหลักสิทธิมนุษยชนและ 7 หัวข้อหลักตามมาตรฐานสากล เช่น ISO 26000 เป็นแนวปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจ • ดำเนินกิจการด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ • สื่อสารและสร้างความเข้าใจภารกิจ กฟผ. อย่างต่อเนื่อง |
วิสัยทัศน์ด้านการบริหารจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ประชาชน และทุกภาคส่วน พึงพอใจและเชื่อมั่น ในการเป็นองค์การที่เป็นผู้นำนวัตกรรม พลังงานไฟฟ้า ที่ใส่ใจสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม และมีธรรมาภิบาล
พันธกิจด้านการบริหารจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
เป็นองค์การหลักด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศที่ดำเนินภารกิจ โดยมุ่งเน้นบริหารจัดการและร่วมสร้างความเชื่อมั่นและคุณค่ากับภาครัฐ หน่วยงานกำกับ ลูกค้า พันธมิตร ชุมชน สังคม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญอื่นทั้งภายนอกและภายใน ของ กฟผ. อย่างใกล้ชิด เหมาะสม ยั่งยืน มีธรรมาภิบาล และบูรณาการกันทั่วทั้งองค์การ ผ่านการดำเนินงานตามแผนแม่บทบริหารจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสียระยะยาว ของ กฟผ.
วัตถุประสงค์
- เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ
- เพื่อเป็นแนวทางการจัดการและตอบสนองต่อประเด็นความต้องการ ความคาดหวัง ข้อร้องเรียนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของ กฟผ. ในระดับองค์กร
- เพื่อประเมินความเพียงพอของมาตรการการตอบสนองต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสำหรับกำหนดมาตรการเพิ่มเติมในการสร้างความเชื่อมั่น ตลอดจนพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง กฟผ. และกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญทุกกลุ่ม
ขอบเขต
แผนแม่บทฯ ฉบับนี้ กำหนดให้ผู้บริหาร ผู้อำนวยการฝ่าย และหัวหน้าโครงการ กำกับดูแลการสานสัมพันธ์ให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่ดี ตามนโยบายด้านการบริหารจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กฟผ. และคู่มือการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามภารกิจของ กฟผ.
เพื่อให้การดำเนินงานสอดคล้องกับภารกิจ และบทบาทในการเป็นองค์การหลักด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศไทยที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กฟผ. กำหนดแนวทางการบริหารจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตามมาตรฐาน AA1000 Stakeholder Engagement Standard (AA1000 SES) และกรอบแนวทางการประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ ตามระบบ State Enterprise Assessment Model (SE-AM) ด้านการมุ่งเน้นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยจัดทำเป็นแผนแม่บทบริหารจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งจะเป็นกรอบแนวทางการบูรณาการการดำเนินงานร่วมกับ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างเป็นระบบที่สนับสนุนหน่วยงานที่มีหน้าที่ประสานงานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มต่าง ๆ ให้สามารถกำหนดแนวทางการสานสัมพันธ์อย่างมีส่วนร่วม และยั่งยืน เหมาะสม และสามารถตอบสนองต่อความต้องการ ความคาดหวัง และข้อกังวลของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันท่วงที โดยในส่วนของการดำเนินงานในพื้นที่ กฟผ. มุ่งเน้นการให้ความสำคัญกับการประเมินผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของแผนงาน/โครงการที่ดำเนินการ เพื่อจัดทำแผนการลดผลกระทบ รวมถึงมีการกำหนดตัวชี้วัดสำหรับการติดตามผลการดำเนินงาน ซึ่งการดำเนินงานด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตามแผนแม่บทบริหารจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสียนั้น จะถูกรวมรวมและรายงานโดยตรงรายไตรมาสต่อฝ่ายบริหาร คณะกรรมการบริหารการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการธรรมาภิบาล และความรับผิดชอบต่อสังคม ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ กฟผ. เพื่อพิจารณากลยุทธ์ ทบทวน ปรับปรุงแนวทางการดำเนินงานด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

