“ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง” แหล่งพลังใจแห่งความยั่งยืน สู่ “รางวัลกินรี” อันทรงเกียรติ
7 October 2025
เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2568 ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จพระราชทานรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) หรือ รางวัลกินรี ครั้งที่ 15 ประจำปี 2568 เวทีอันทรงเกียรติสูงสุดของวงการท่องเที่ยวไทย และในโอกาสอันสำคัญนี้ ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง ได้สร้างความภาคภูมิใจด้วยการคว้ารางวัล ดีเด่น ประเภทแหล่งท่องเที่ยว สาขาแหล่งท่องเที่ยวนันทนาการ โดยมี น.ส.รัชดาพร เสียงเสนาะ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์องค์การ (อสป.) เป็นผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เข้ารับพระราชทานรางวัล ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงเป็นเกียรติประวัติอันยิ่งใหญ่ของ กฟผ. แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของบุคลากรที่อยู่เบื้องหลังทุกคน ที่ร่วมกันผลักดันให้สถานที่แห่งนี้เติบโตจาก “พื้นที่เล็ก ๆ” สู่การเป็น “แหล่งเรียนรู้ระดับชาติ” ที่สร้างแรงบันดาลใจและขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน
“รางวัลกินรี” สัญลักษณ์แห่งคุณภาพและความยั่งยืนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
รางวัลกินรี ริเริ่มโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 เพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ถือเป็น “ตราประทับแห่งคุณภาพ” ที่มอบให้กับผู้ประกอบการและแหล่งท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นในด้านคุณภาพ ความรับผิดชอบต่อสังคม และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม โดยในปี 2566 นับเป็นปีแรกที่ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง ได้รับพระราชทานรางวัลกินรี ครั้งที่ 14 ในระดับ “ยอดเยี่ยม” ประเภทแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้
และในปี 2568 นี้ นับเป็นวาระครบรอบ 30 ปีแห่งเกียรติยศของรางวัลกินรี อีกทั้งเป็นปีแรกที่มีการเพิ่มรางวัลพิเศษด้านความยั่งยืน รวมถึงใช้เกณฑ์การตัดสินที่เข้มงวดที่สุดในรอบสามทศวรรษ เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวที่แท้จริง
ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง มากกว่าแหล่งท่องเที่ยว
“ก้าวเล็ก ๆ ของการมาเยี่ยมชม อาจกลายเป็นก้าวใหญ่ที่เปลี่ยนมุมมองเรื่องพลังงานตลอดไป”
นี่คือปรัชญาที่หล่อหลอมอยู่ในทุกอณูของศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง จ.นนทบุรี ซึ่งถูกออกแบบให้เป็นมากกว่านิทรรศการไฟฟ้า หากแต่เป็นพื้นที่บูรณาการ ทั้งความรู้ ความสนุก และแรงบันดาลใจ เพื่อสร้างการเรียนรู้ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน
สิ่งที่ทำให้ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้โดดเด่นและแตกต่าง ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเทคโนโลยีทันสมัยหรือโซนจัดแสดงที่ครบวงจร แต่คือ “หัวใจของความยั่งยืน” ที่ฝังรากลึกอยู่ในทุกมิติ
– ทุกตารางเมตรถูกออกแบบให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
– ทุกกิจกรรมสร้างความรู้และความสนุกให้เยาวชน ปลูกฝังจิตสำนึกด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม
– ทุกโครงการผูกโยงกับชุมชนบางกรวย ที่เติบโตไปด้วยกัน
ร่วมแรงร่วมใจสู่ “รางวัลแห่งความภาคภูมิ” และ “ความมุ่งมั่นสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน”
น.ส.รัชดาพร เสียงเสนาะ อสป. กล่าวว่า รางวัลที่ได้รับในครั้งนี้ได้ตอกย้ำบทบาทของ กฟผ. ในการดูแลพลังงานควบคู่กับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ความสำเร็จครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือ ร่วมแรง และร่วมใจของ กฟผ. และชุมชน จนทำให้ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. เป็นเสมือน “บ้านหลังหนึ่ง” ที่เปิดต้อนรับทุกคนด้วยความจริงใจ รางวัลนี้จึงไม่ใช่เพียงเป็นถ้วยรางวัลเกียรติยศ แต่เป็นหลักฐานสำคัญที่สะท้อนถึงพลังความตั้งใจของบุคลากรและชุมชน ที่ได้ร่วมกันสร้างการเรียนรู้ สร้างความสุข และสร้างแรงบันดาลใจเพื่อสังคมที่ยั่งยืน ทั้งนี้ ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ทั่วประเทศ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ด้านพลังงานของไทยที่ผสมผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัย เข้ากับการเป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม พร้อมมุ่งสู่เป้าหมายการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน
“รางวัลนี้ไม่ใช่เพียงเครื่องหมายแห่งความสำเร็จ แต่คือการยืนยันว่า กฟผ. ดำเนินภารกิจดูแลพลังงานควบคู่การดูแลสังคม”
ด้าน นายอนวัช พรหมคชสุต หัวหน้ากองปฏิบัติการศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. (กปศ-ย.) อสป. เล่าว่า การประกวดปีนี้เข้มข้นกว่าที่ผ่านมา โดยเน้นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและการมีส่วนร่วมกับชุมชน ซึ่งเป็นโจทย์ท้าทายของศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ที่มุ่งเน้นการถ่ายทอดความรู้ด้านพลังงานเป็นหลัก
“สิ่งที่กรรมการชื่นชมเรามากที่สุดคือ คุณภาพของการนำชมและการถ่ายทอดความรู้ เราให้ความสำคัญกับผู้เยี่ยมชมทุกคนและใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ ตั้งแต่การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ไปจนถึงการดูแลความสะอาดและความปลอดภัยในทุกจุด ทำให้ผู้มาเยือนเกิดความประทับใจ”
นายอนวัช ฯ ย้ำถึงเบื้องหลังความสำเร็จว่า รางวัลนี้เป็นผลมาจากความทุ่มเทของทีมงานทุกคน ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ต้อนรับที่มอบรอยยิ้มให้กับเด็ก ๆ เจ้าหน้าที่นำชมที่คอยถ่ายทอดความรู้และนำชม ไปจนถึงชาวบ้านชุมชนบางกรวยที่ร่วมสร้างบรรยากาศอันอบอุ่น
“ข้อเสนอแนะของคณะกรรมการจะถูกนำมาปรับใช้และปรับปรุงการให้บริการของศูนย์ฯ ในด้านต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นกับศูนย์ฯ ให้เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงาน เชื่อมโยงและมีส่วนร่วมกับชุมชนโดยรอบมากขึ้น เพื่อยกระดับสู่การเป็นแหล่งเรียนรู้อย่างยั่งยืน”
นายชัยยศ เสตสุวรรณ วิทยากรระดับ 8 กปศ-ย. กล่าวเสริมว่า ความยากของการประกวดรางวัลไม่ใช่แค่เกณฑ์ที่เข้มงวด การสมัครประกวดรางวัลกินรีไม่ใช่แค่กรอกข้อมูล แต่คือการทำงานแข่งกับเวลา ประสานความร่วมมือจากหลายฝ่าย และต้องกลั่นกรองข้อมูลจำนวนมากให้เหลือเพียง 2,000 ตัวอักษรในแต่ละข้อ
“สิ่งที่ได้จากการทำงานครั้งนี้ ไม่ใช่แค่รางวัล แต่คือการเห็นพลังทีมงาน ที่ร่วมกันฝ่าทุกอุปสรรคเพื่อการันตีคุณภาพ”
นายอัศวิน ชิดสิน หัวหน้าแผนกสื่อสารและการตลาดศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. (หกต-ย.) กองบริหารศูนย์การเรียนรู้ (กบศ-ย.) กล่าวว่า นิทรรศการสมัยใหม่ ไม่ใช่แค่ให้ความรู้ แต่ต้องสร้างความประทับใจที่ผู้ชมสัมผัสได้จริง
“Elextrosphere คือไฮไลต์ที่อยากชวนน้อง ๆ มาดู เพราะมันสวยงาม น่าตื่นตา และทำให้เห็นว่าการดูแลโลกอยู่ในมือน้อง ๆ แล้ว ครั้งแรกในประเทศไทยกับภาพยนตร์ 6 มิติ ที่พลังงานถูกเล่าอย่างสมจริง ทั้งแสง สี เสียง ความร้อน ความเย็น และกลิ่น”
ประสบการณ์ที่สมดุล “ความรู้-ความสุข-ความยั่งยืน”
ภายในศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ครบวงจร ตั้งแต่การเรียนรู้เรื่องพลังงานผ่านนิทรรศการที่ทันสมัยและน่าสนใจ การเข้าร่วมกิจกรรมเวิร์กช็อปที่สร้างสรรค์และลงมือปฏิบัติจริง การพักผ่อนหย่อนใจในสวนสีเขียวอันร่มรื่น ไปจนถึงการเชื่อมโยงกับเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนโดยรอบ ทุกมิติเหล่านี้ถูกร้อยเรียงเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน เพื่อสะท้อนถึงความสมดุลระหว่าง “ความรู้-ความสุข-ความยั่งยืน” ที่เป็นหัวใจหลักของศูนย์ฯ และเมื่อก้าวออกไป ผู้มาเยือนจึงไม่ได้กลับบ้านไปเพียงแค่รอยยิ้มและความประทับใจ แต่ยังพกพาความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับเรื่องพลังงาน ความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึง “แรงบันดาลใจเล็ก ๆ” ที่อาจจุดประกายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในโลกใบนี้ได้
ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง จึงไม่ได้เป็นเพียงแหล่งท่องเที่ยว แต่เป็น “แหล่งพลังใจแห่งความยั่งยืน” ที่ส่งต่อคุณค่าอันล้ำค่าสู่สังคมไทยและโลก และเมื่อมองย้อนกลับไป รางวัลกินรีครั้งนี้จึงมิใช่เพียงถ้วยรางวัลอันสวยงาม หากแต่เป็นเสียงสะท้อนอันทรงพลังว่า ความตั้งใจอันแน่วแน่ของบุคลากรทุกคนในศูนย์ฯ แห่งนี้ กำลังสร้าง “พลังที่ยิ่งใหญ่” เพื่อขับเคลื่อนสังคมและโลกของเราให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืนอย่างแท้จริง