Hello Social ตอน “เมลอน” สวนลุงสิงห์ หวานฉ่ำฟินด้วย “ฮิวมิคพาวเวอร์”
16 July 2024
“เมลอน” สวนลุงสิงห์ หวานฉ่ำฟินด้วย “ฮิวมิคพาวเวอร์”
เฮลโหลวววโซเชี่ยววว !! สวัสดีทุกคนนนน กลับมาพบกันอีกแล้วกับ “Hello Social” วันนี้จะพาทุกท่านไปพบกับ ลุงสิงห์เดอะเมลอนคิง ที่ สวนลุงสิงห์ แม่เมาะ ลำปาง เมื่อเอ่ยชื่อถึง “สวนลุงสิงห์” เราคงจินตนาการไปแล้วว่า ต้องเป็นคุณลุงเกษตรกรสูงอายุ อย่างแน่นอน.. แต่ที่ไหนได้ กลับเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ วัยรุ่นไฟแรงหน้าละอ่อน ดีกรีวิศวกร ส่วนจะฉ่ำอย่างไรบ้างนั้น ไปตามติดชีวิตหวานฉ่ำสไตล์ลุงสิงห์ Melon Melon Melon เลยยยย ..

กำเนิดสวนลุงสิงห์
“สิงห์” คุณสิงหราช จันทร์ยอด จบปริญญา วิศวกรรมระบบ เครื่องมือวัด และปริญญา ฟิสิกส์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ลาออกจากงานประจำ เพื่อกลับมาอยู่บ้านเกิดที่ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง และไม่รู้ว่าจะกลับมาทำอะไร แต่มีสิ่งหนึ่งที่อยากทำคือการปลูกเมลอน ซึ่งขณะนั้นคุณแม่ของสิงห์เป็นสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ในศูนย์การเรียนรู้อันเนื่องมาจากพระราชดำริบ้านใหม่นาแขม หมู่ 7 ต.แม่เมาะ ประจวบเหมาะช่วงที่กลับมาอยู่บ้านมหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา มาอบรมการปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์แก่สมาชิก จึงเป็นจุดแรกเริ่มของการเข้าสู่วงการเกษตร
ก้าวแรกสู่ “สวนลุงสิงห์” The Melon King of Mae Moh
เริ่มขึ้นเมื่อปี 2561 ที่ได้รับโอกาสจากมหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา และศูนย์การเรียนรู้บ้านใหม่นาแขม ร่วมมือกันทำโครงการปลูกเมลอน โดยหาสมาชิกที่สนใจปลูกเมลอน สิงห์จึงไม่ลังเลที่จะคว้าโอกาสสานความฝันของตัวเอง โดยได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก นางอริสสรา เครือบุญมา ผู้ใหญ่บ้านบ้านใหม่นาแขม ที่สนใจปลูกเมลอนเพราะเป็นผลไม้ที่ปลูกได้ตลอดทั้งปีด้วยเป็นผลไม้ที่ปลูกยาก จึงเป็นที่ต้องการของตลาด มีราคาสูง และราคาสามารถกำหนดได้เองตามคุณภาพเมลอนของสวนนั้น ๆ

เมื่อเอ่ยชื่อ “สวนลุงสิงห์” คงจินตนาการว่าต้องเป็นคุณลุงเกษตรกรสูงอายุ
แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่เลย !
กว่าจะเป็นเมลอนหอมหวานฉ่ำ
วิธีการปลูกเมลอนนั้นเรียกได้ว่าต้องสนใจในทุก ๆ ขั้นตอน ต้องอาศัยความอดทนและความรู้เรื่องเมลอนอย่างแท้จริง ผลผลิตล่าสุดเก็บจำหน่ายเมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จากนั้นต้องพักโรงเรือนไว้ประมาณ 15-30 วัน เพื่อไม่ให้มีเชื้อโรคหรือแมลงเหลืออยู่ ซึ่งมีรอบการปลูกอยู่ประมาณ 3 เดือน โดยผลผลิตนั้นต้องนำเมลอนไปตรวจสอบค่าความหวาน ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาก่อน พันธุ์ที่ปลูกคือพอท ออเร้นจ์ (T957) และกรีนเนท (T778) เป็นพันธุ์ที่เหมาะกับอากาศของเมืองไทย ทนต่อโรคพืชได้ดีทำความหวานได้ง่าย และหวานกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ เพราะลองสายพันธุ์ญี่ปุ่นแล้วเป็นโรคง่าย ลูกแตกและเน่าง่ายกว่าสองสายพันธุ์นี้
ไม่มีคู่แข่งเพราะทุกคนคือเครือข่าย
สำหรับคนที่สนใจสามารถเข้ามาเรียนรู้ได้ ยินดีที่ถ่ายทอดความรู้ไม่ว่าเป็นด้านผักไฮโดรโปรนิกส์หรือการปลูกเมลอนแบบละเอียดให้ เพราะสำหรับตนไม่ได้มองว่าเราให้ความรู้แก่ใครแล้วเขาจะกลับมาเป็นคู่แข่ง แต่กลับมองว่าเป็นการสร้างเครือข่ายมากกว่า เมื่อเจอปัญหาสามารถนำมาแลกเปลี่ยนกันได้ อนาคตสวนลุงสิงห์คงไม่ได้มีแต่เมลอน ตอนนี้ยังเรียนรู้และพัฒนาเพื่อที่สวนลุงสิงห์จะมีผลผลิตที่หลากหลาย และรักษามาตรฐานให้ถูกใจผู้บริโภค หากท่านใดสนใจสามารถจองเมลอนได้ทาง Facebook สวนลุงสิงห์ หรือติดต่อสอบถามได้ที่ เบอร์โทร 095-428-7914 จะได้กินเมลอนที่อร่อยและฉ่ำว้าวแน่นอน
“ผลที่ได้มีขนาดลูกใหญ่กว่า และที่น่าตกใจคือ ความหวานที่เพิ่มขึ้น 2 บริกซ์
เมื่อเทียบกับไม่ใช้ฮิวมิค”
“ฮิวมิค” เคล็ดลับเมลอนหวานฉ่ำจากสวนลุงสิงห์
: ฟังจากปากลุงสิงห์เดอะเมลอนคิง :
ต้องเล่าว่าที่ใช้ฮิวมิคครั้งแรกเลยคือช่วงกลางปี 65 ตอนนั้นเป็นในรูปแบบการทดลองก่อน โดยทางกองฟื้นฟูสภาพเหมือง กฟผ. แม่เมาะ นำด้วยพี่ฉลอง รวมถึงคุณสตางค์ ได้เข้ามาติดต่ออยากให้ลองเอาฮิวมิคมาใช้ในเมลอน เป็นการทดลองตัวอย่างประมาน 40 ต้น เทียบกับต้นที่ไม่ได้ใช้
“ตอนแรกผมเองก็ไม่มีความรู้เกี่ยวกับฮิวมิคเลย
และเพิ่งเคยได้ยินตอนนั้นแหละครับ”
ซึ่งก็ไม่ได้คิดว่ามันจะมาทำให้ผลผลิตเราดีขึ้น แต่กลับมองว่ามันจะทำให้ต้นเมลอนเรามีปัญหาอะไรไหม แต่ด้วยความที่ชอบทดลองอยากรู้อยากเห็นอยู่แล้ว เลยตัดสินใจลองใช้ดู โดยออกแบบการทดลองเป็นความเข้มข้นในการใช้งานหลายระดับความเข้มข้น ผลปรากฏว่าต้นเมลอนไม่ตาย แถมต้น ใบ ยังอวบใหญ่กว่าที่ไม่ใช้เสียอีก และผลที่ได้มีขนาดลูกใหญ่กว่า และที่น่าตกใจคือความหวานที่เพิ่มขึ้น 2 บริกซ์เมื่อเทียบกับต้นที่ไม่ใช้
ปกติสวนผมจะมีมาตรฐานความหวานที่ 15 บริกซ์อยู่แล้วหรือบางช่วงของปีก็อาจจะได้ 14 บริกซ์ นาน ๆ จะไปแตะถึงระดับ 17-18 บริกซ์ แต่เมื่อใช้ฮิวมิคแทบจะการันตีว่า 15 บริกซ์ทั้งปีแน่ ๆ แถมยังได้ถึง 17-19 บริกซ์อีกต่างหาก ซึ่งตอนนั้นความหวานที่ได้แตะที่ 17 บริกซ์ในการทดลองรอบแรก และมีทดลองรอบที่ 2 ก็ยังได้ผลที่เหมือนกับรอบแรก แต่ตอนนั้นยังไม่ได้มีวิธีการใช้อย่างปัจจุบันนี้ ซึ่งเราก็ได้ทดลองร่วมกับทางเหมืองแม่เมาะ กฟผ. อย่างจริงจังตั้งแต่ ปี 2566 และได้ลองหลายความเข้มข้น จนหาความเข้มข้นที่เหมาะสมในการใช้งานได้ จนถึงตอนนี้ยังคงทดลองและพัฒนาการนำฮิวมิคไปใช้งานให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้นอีก

ถ้าจะบอกว่าฮิวมิคช่วยพืชในด้านไหน ต้องบอกว่าฮิวมิคคืออาหารเสริมของพืชไม่ใช่นำมาใช้ทดแทนปุ๋ย ปุ๋ยที่ใช้ยังต้องใช้อยู่ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก แต่ฮิวมิคจะมาช่วยให้ปุ๋ยที่เราใส่ให้กับพืชมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะฮิวมิคจะช่วยให้รากพืชมีความแข็งแรง ดูดซึมสารอาหารได้ดี รากฝอยมีปริมาณมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ปกติเราใส่ปุ๋ยไป พืชอาจจะนำไปใช้ได้เพียง 50-60 % แต่ถ้าใส่ฮิวมิคไปด้วยพืชอาจจะนำไปใช้ได้ถึง 80-90% เลย ที่สำคัญฮิวมิคไม่ได้มีอันตรายหรือผลกระทบต่อพืชหรือผู้ใช้งาน เพราะสกัดมาจากซากพืชซากสัตว์ที่ทับถมกันมาเป็นล้านปี ซึ่งก็คือลีโอนาไดต์ ที่อยู่ในดินอยู่แล้วนั่นเองครับ คุณสิงห์กล่าวพร้อมรอยยิ้ม
- Melon สีเขียวหวานฉ่ำ
- Melon สีส้มหอมหวานละมุน
“ฮิวมิค” จะมาช่วยใช้ปุ๋ยที่เราใส่ให้กับพืชมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดูดซึมสารอาหารได้ดี รากฝอยมีปริมาณมากขึ้น
จากผลพลอยได้ของเหมืองแม่เมาะ กฟผ. สู่ผู้ช่วยคนสำคัญของเกษตรกร
การทำเหมือง กฟผ. แม่เมาะ จำเป็นต้องเปิดหน้าดินที่ปิดทับถ่านหินลิกไนต์ออก และนำไปทิ้งยังพื้นที่ที่กำหนดไว้ ซึ่งจากการศึกษาวิจัยพบว่า หน้าดินดังกล่าวมีชั้นลีโอนาร์ไดต์ (Leonardite) ซึ่งเป็นชั้นดินที่มีอินทรียวัตถุสำคัญแทรกอยู่ คือ สารประกอบฮิวมิค (กรดฮิวมิค กรดฟูลวิค และฮิวมิน) สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตรกรรมได้หลากหลาย เช่น ใช้ปรับปรุงดินที่เสื่อมสภาพให้เหมาะสมต่อการเพาะปลูก ซึ่งพื้นที่สวย ๆ รอบเหมืองแม่เมาะ รวมถึงสวนดอกไม้ต่าง ๆ ในพื้นที่ก็ได้ใช้ฮิวมิคปรับปรุงดินด้วยเช่นกัน
- ลีโอนาร์ไดต์ (Leonardite)
- ผลิตภัณฑ์ฮิวมิคแบบน้ำ
Circular Economy เพื่อชีวิตดี ที่ยั่งยืน
กฟผ. ได้ศึกษาวิจัยกระบวนการคัดแยกสิ่งเจือปนออกจากลีโอนาร์ไดต์ เพื่อให้มีความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ฮิวมิคแบบน้ำเป็นผลพลอยได้ (By-Product) ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีหลายประการ โดยเฉพาะอินทรียวัตถุที่มีปริมาณสูง มีธาตุอาหารจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชหลายชนิด นอกจากนี้ จากการวิจัยพบว่า ปริมาณธาตุโลหะหนักทุกชนิดมีค่าดีกว่าเกณฑ์มาตรฐาน สามารถใช้เป็นส่วนผสมเพื่อปรับปรุงดิน การบำบัดน้ำเสีย หรือใช้กับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องได้
การผลิตฮิวมิค ถือเป็นการใช้วัตถุพลอยได้หรือของที่ต้องทิ้งจากการทำเหมืองให้เกิดประโยชน์ และเพิ่มมูลค่าได้ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) จำหน่ายในราคาย่อมเยาเมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายทั่วไปในท้องตลาด สอดรับกับปริมาณความต้องการใช้งานฮิวมิคทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นปีละมากกว่า 10% ขณะที่ประเทศไทยมีการนำฮิวมิคมาใช้อย่างแพร่หลายเพิ่มมากขึ้น จึงถือเป็นการช่วยเหลือชุมชน เกษตรกร ให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มผลผลิต และลดค่าใช้จ่ายในการทำเกษตรกรรมลงได้มาก สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเกษตรกรได้อย่างยั่งยืน

สำหรับผู้สนใจสั่งซื้อ “ฮิวมิค” สามารถติดต่อได้ที่สหกรณ์ กฟผ. แม่เมาะ
หรือ SCAN QR CODE ได้เลย