กฟผ. คว้า 13 รางวัล เวทีความปลอดภัยแห่งชาติ Thailand Safe@Work 2025 ตอกย้ำความมุ่งมั่น ยกระดับวัฒนธรรมความปลอดภัยอย่างยั่งยืน

11 June 2025

         รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ ครั้งที่ 37 พร้อมมอบโล่รางวัลแก่สถานประกอบกิจการต้นแบบด้านความปลอดภัย กฟผ. คว้า 13 รางวัล สะท้อนถึงความมุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานและวัฒนธรรมความปลอดภัยในการทำงานอย่างยั่งยืน

         เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.แรงงาน) เป็นประธานในพิธีเปิดงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ ครั้งที่ 37 หรือ Thailand Safe@Work 2025 ภายใต้แนวคิด “ร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย เพื่อสังคมไทยยั่งยืน” พร้อมมอบโล่รางวัลประกาศเกียรติคุณแก่สถานประกอบกิจการต้นแบบด้านความปลอดภัย จำนวน 91 รางวัล จัดขึ้นโดยสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) หรือ สสปท. ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

         ในปีนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ และรางวัล จำนวน 13 รางวัล ได้แก่ โล่ประกาศเกียรติคุณกิจกรรมสถานประกอบกิจการต้นแบบด้านความปลอดภัย ภายใต้โครงการเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อขับเคลื่อนวัฒนธรรมความปลอดภัยอย่างยั่งยืน รางวัลจากกิจกรรมโครงการรณรงค์ลดสถิติการประสบอันตรายจากการทำงานให้เป็นศูนย์ประจำปี 2568 ระดับแพลตินัม 2 รางวัล ได้แก่ โรงไฟฟ้าวังน้อย และเขื่อนภูมิพล ระดับทอง 3 รางวัล ได้แก่ โรงไฟฟ้าจะนะ เขื่อนวชิราลงกรณ และโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ระดับเงิน 4 รางวัล ได้แก่ เขื่อนจุฬาภรณ์ เขื่อนท่าทุ่งนา เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนรัชชประภา ระดับทองแดง 1 รางวัล ได้แก่ เขื่อนอุบลรัตน์ และระดับต้น 1 รางวัล ได้แก่ ฝ่ายปฏิบัติการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำนักงานนครราชสีมา และรางวัลชมเชย จากกิจกรรมภายใต้โครงการบ่มเพาะบุคลากร และพัฒนานวัตกรรม ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ประจำปี 2568 (ผลงานระบบเฝ้าติดตามแผ่นดินถล่ม Landslide Monitoring System: LandMoS) จากฝ่ายวางแผนและบริหารเหมืองแม่เมาะ โดยรางวัลที่ กฟผ. ได้รับในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ กฟผ. ในการสร้างความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน และสนับสนุนวัฒนธรรมความปลอดภัยอย่างยั่งยืนในองค์การภาครัฐในระดับประเทศ

         ภายในงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ยังได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “เริ่มสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยเพื่อสังคมไทยยั่งยืน” โดยเน้นย้ำถึงบทบาทของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการปลูกฝังวัฒนธรรมความปลอดภัยให้หยั่งรากลึกในสังคมไทย พร้อมชี้ว่า “ความปลอดภัยในการทำงานคือสิทธิขั้นพื้นฐานของแรงงานทุกคน และยังเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ” ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานได้กำหนดแนวทาง 3 เสาหลักในการดำเนินนโยบายความปลอดภัยอย่างยั่งยืน ได้แก่ 1) การเสริมสร้างความรู้และจิตสำนึกด้านความปลอดภัย 2) การสนับสนุนสถานประกอบการ ให้เข้าถึงมาตรฐานความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล และ 3) การตรวจสอบการใช้กฎหมายความปลอดภัยอย่างเข้มงวดและครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงการพัฒนาสื่อและข้อมูลให้สอดรับกับแรงงานยุคใหม่ เช่น แรงงานนอกระบบ แรงงานต่างชาติ แรงงานแพลตฟอร์ม และแรงงานสูงอายุ เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลด้านความปลอดภัยอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

         สำหรับกิจกรรมในงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ ครั้งที่ 37 นี้ จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 9-11 มิถุนายน 2568 มุ่งส่งเสริมความรู้และพัฒนาศักยภาพด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานให้แก่ผู้ใช้แรงงานและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับการส่งเสริมความรู้และพัฒนาขีดความสามารถด้านความปลอดภัย ปลูกจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในการทำงานอย่างต่อเนื่อง และแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของภาครัฐในการเอาใจใส่และรณรงค์ส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยในการทำงานอย่างจริงจัง

         นอกจากนี้ กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การสัมมนาทางวิชาการ การแสดงนิทรรศการ และการสาธิตด้านความปลอดภัยในการทำงาน รวมทั้งกิจกรรมการประกวดและสาระบันเทิงด้านความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อให้กลุ่มบุคคลและองค์กรที่เกี่ยวข้องได้มีโอกาสในการพัฒนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ทางวิชาการ แนวคิด และวิธีการแก้ไขปัญหา เพื่อการสร้างสรรค์วัฒนธรรมไทยเชิงป้องกันได้อย่างยั่งยืน

Skip to content