กฟผ. จับมือสถาบันอาหาร ร่วมพัฒนาขีดความสามารถของกิจการชุมชน ผลักดันสร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์อาหารท้องถิ่นให้ก้าวไกลสู่ตลาดสากล

2 August 2022

         กฟผ. ร่วมกับสถาบันอาหาร จัดพิธีลงนามความบันทึกความเข้าใจการพัฒนาขีดความสามารถของกิจการชุมชน กฟผ. เพื่อสร้างความได้เปรียบของผลิตภัณฑ์ชุมชนพร้อมแข่งขันในอุตสาหกรรมอาหาร โดยนำร่อง 6 ผลิตภัณฑ์อาหารท้องถิ่นจาก 5 พื้นที่ชุมชนรอบ กฟผ. ผลักดันและยกระดับมาตรฐานให้เป็นที่ยอมรับในตลาดสากล สร้างรายได้และสนับสนุนชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน

         เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 นายสุทธิพงษ์ เฉลิมเกียรติ ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน เป็นผู้แทน กฟผ. ร่วมลงนามความบันทึกความเข้าใจ การพัฒนาขีดความสามารถของกิจการชุมชน กฟผ. เพื่อสร้างความได้เปรียบของผลิตภัณฑ์ชุมชนพร้อมแข่งขันในอุตสาหกรรมอาหาร กับนางอนงค์ ไพจิตรประภาภรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร โดยมีนายประเสริฐ อินทับ ผู้ช่วย ผู้ว่าการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และนางนิตยา พิระภัทรุ่งสุริยา รองผู้อำนวยการสถาบันอาหาร ร่วมลงนามเป็นสักขีพยาน ผ่านแอปพลิเคชัน Zoom Meeting

         นายสุทธิพงษ์ เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า กฟผ. ได้กำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินงานเพื่อสร้างสมดุล 3 ด้าน ทั้งการเติบโต ขององค์การ การดำเนินงานเพื่อสังคม และการดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างการเติบโตไปด้วยกันอย่างสมดุล ในการดำเนินงานด้านสังคม กฟผ. ได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิต และยกระดับเศรษฐกิจของชุมชนรอบโรงไฟฟ้า เขต และเขื่อน ของ กฟผ. โดยมุ่งสร้างรายได้ให้ชุมชน 4 มิติ ประกอบด้วย อาหาร สุขภาพ พลังงาน และการท่องเที่ยว ซึ่งสอดคล้องตามพื้นฐานและบริบท ของชุมชน และแนวทางของ กฟผ. ในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในมิติทางด้านอาหารนั้น กฟผ. ได้ส่งเสริมกิจการชุมชน พัฒนาองค์ความรู้ และนำผลผลิตในพื้นถิ่นมาสร้างคุณค่าเกิดเป็นสินค้าและผลิตภัณฑ์ในระดับหนึ่ง ซึ่งหากจะเพิ่มขีดความสามารถ ให้สามารถก้าวสู่ธุรกิจอุตสาหกรรมอาหาร การดำเนินการในปัจจุบันอาจจะยังไม่เพียงพอ จึงนับเป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมมือกับสถาบันอาหาร ผลักดันผลิตภัณฑ์อาหารท้องถิ่นจากชุมชนรอบโรงไฟฟ้า เขต และเขื่อน ของ กฟผ. สู่ตลาดสากล ให้เป็นที่ยอมรับ ทั้งในและต่างประเทศ นำมาซึ่งการเติบโตของเศรษฐกิจในชุมชน รวมถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนเป็นส่วนหนึ่ง ในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับอุตสาหกรรมอาหารไทยในระดับนานาชาติต่อไป

         นายประเสริฐ อินทับ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ กฟผ. คือการมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ และพัฒนาขีดความสามารถของชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งพื้นที่เขต เขื่อน และโรงไฟฟ้า ของ กฟผ. มีแผนงานส่งเสริมสนับสนุนและต่อยอดความรู้ของชุมชนให้ได้นำไปประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์ของตนเอง และยกระดับสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในครั้งนี้ กฟผ. ได้ร่วมมือกับสถาบันอาหาร คัดเลือก 6 ผลิตภัณฑ์ จาก 5 พื้นที่ ได้แก่ น้ำพริกปลาป่น จากเขื่อนภูมิพล จ.ตาก กล้วยขันหมากและหน่อไม้ Snack จากเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี เม็ดมะม่วงหิมพานต์ จากเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ปลาเปรี้ยว จากเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี และชาใบขลู่ จากโรงไฟฟ้าบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อนำร่องไปสู่การยกระดับทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ สร้างจุดเด่นด้านอัตลักษณ์ วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น การแปรรูป ภายใต้ศักยภาพของชุมชนด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรมให้มีคุณภาพมาตรฐานแบบสากล พร้อมทั้งขยายช่องทางจัดจำหน่ายให้กับสินค้าชุมชนที่มีความพร้อม เพื่อผลักดันผู้ประกอบการให้สามารถขยายช่องทางการตลาด และเพิ่มยอดขาย สร้างรายได้ที่ยั่งยืนและสามารถแข่งขันได้

         นางอนงค์ ไพจิตรประภาภรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า สถาบันอาหารเป็นเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นมูลนิธิไม่หวังผลกำไร มีภารกิจในการส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารผ่านการบริการต่าง ๆ เช่น การออกแบบผังโรงงาน เครื่องจักร กระบวนการผลิต การให้คำปรึกษา เพื่อให้ผู้บริการและผู้สนใจได้ยกระดับมาตรฐานการผลิตและความปลอดภัย ทั้งคุณภาพของสินค้า เพิ่มมูลค่า และความได้เปรียบด้านการแข่งขัน โดยสถาบันอาหารมีแนวทางที่จะให้บริการที่สร้างคุณค่า และความได้เปรียบให้แก่ผลิตภัณฑ์ชุมชนในพื้นที่รอบ เขต เขื่อน และโรงไฟฟ้า ของ กฟผ. ดังนี้ 1) ร่วมคัดเลือก วิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยการใช้เทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มคุณภาพ และสร้างมาตรฐานตามความต้องการของตลาด 2) พัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนรอบพื้นที่ กฟผ. จากจุดเด่นด้านอัตลักษณ์ วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น การแปรรูป ภายใต้ศักยภาพหลักของชุมชน 3) ร่วมกันจัดอบรม สัมมนา ให้คำปรึกษาทางวิชาการ ให้แก่วิสาหกิจชุมชนรอบพื้นที่ กฟผ. เพื่อให้มีความพร้อมในการต่อยอดส่งออกระดับประเทศ 4) จัดให้มีการขยายช่องทางการตลาด การจัดจำหน่ายให้กับสินค้าชุมชนของพื้นที่รอบ กฟผ. โดยผลักดันให้มีช่องทางเพิ่มขึ้น สามารถเพิ่มยอดขาย สร้างรายได้ที่ยั่งยืนต่อไป

Skip to content