กฟผ. หนุน ททท. เปิดตัวโครงการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยฯ ครั้งที่ 14 มุ่งเป้าสู่การท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน

8 March 2023

         กฟผ. สนับสนุน ททท. เปิดตัวโครงการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) ครั้งที่ 14 พร้อมร่วมการันตี 2 รางวัลทรงคุณค่าที่ กฟผ. ได้รับในปี 2564 ช่วยยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนรอบโรงไฟฟ้าลำตะคองฯ และศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ลำตะคอง ได้เป็นอย่างดี เชิญชวนให้เขต เขื่อน โรงไฟฟ้า และศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. เข้าร่วมสมัครโครงการฯ ในปี 2566 เพื่อร่วมขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยสู่เป้าหมาย การท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำให้เติบโตอย่างยั่งยืน

         เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดตัวโครงการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย มุ่งสู่เป้าหมายการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ พร้อมยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย สู่การเติบโต อย่างยั่งยืน โดยมีนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าศูนย์สร้างสรรค์ การออกแบบ เพื่อสิ่งแวดล้อม ภาควิชานวัตกรรมอาคาร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และหัวหน้าคณะที่ปรึกษา ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) เข้าร่วมงาน ในการนี้ น.ส.รัชดาพร เสียงเสนาะ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสาร และประชาสัมพันธ์องค์การ เป็นผู้แทน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมพูดคุยในฐานะผู้ประกอบการที่เคยได้รับรางวัล ณ ห้องโถงธนะรัชต์ อาคาร ททท. กรุงเทพฯ

         นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย หรือ Thailand Tourism Awards (TTA) เป็นรางวัลอันทรงเกียรติ และเป็นเครื่องมือสำคัญในการแสดงถึงคุณค่า ยกระดับคุณภาพมาตรฐานของสินค้าและ บริการทางการท่องเที่ยวของไทยสู่ระดับสากล รวมทั้งเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งจัดประกวดอย่างต่อเนื่องทุก ๆ 2 ปี และในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 14 โดยเปิดรับสมัครทั้งหมด 5 ประเภท คือ 1. แหล่งท่องเที่ยว (Attraction) 2. ที่พักนักท่องเที่ยว (Accommodation) 3. การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health and Wellness Tourism) โดย ททท. ได้เพิ่มเติมอีก 2 ประเภท ได้แก่ 4. รายการนำเที่ยว (Tour Programmes) และ 5. การท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ เพื่อความยั่งยืน (Low Carbon & Sustainability) มุ่งสู่เป้าหมายการท่องเที่ยวที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ พร้อมขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยสู่การเป็น High Value และ Sustainable Tourism

         รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าศูนย์สร้างสรรค์ การออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม ภาควิชานวัตกรรมอาคาร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และหัวหน้าคณะที่ปรึกษา RISC กล่าวว่า คำว่า Low Carbon เป็นคำที่มีมานาน และในอนาคตจะเน้นคำว่า Decarbonization ซึ่งหมายถึงลดการใช้พลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น จากการศึกษาที่ผ่านมา พบว่าสามารถประหยัดได้ 40 – 50% ในส่วนของผู้ประกอบการโรงแรม ซึ่ง 60% จากการลดใช้พลังงานมาจากการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาคนทั่วโลกในอดีตจะพูดเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก แต่ปัจจุบันสิ่งที่ทุกคนกังวลและพูดถึงบ่อยครั้งคือ Climate Change และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งนักท่องเที่ยวไม่ได้มองว่าเป็น Entertainment อย่างเดียวแล้ว แต่มองถึง การ Reflect Image ของตนเอง ผ่านการหาจุดหมายปลายทางซึ่งเป็นประเทศที่สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วย จึงมองว่าประเทศไทย มีความพร้อมและมีโอกาสในการเป็น Top of the World ด้าน Tourism และ Low Carbon Tourism

         น.ส.รัชดาพร เสียงเสนาะ กล่าวว่า ปี 2564 กฟผ. ได้รับรางวัล 2 รางวัล โดยโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา จ.นครราชสีมา ได้รางวัลยอดเยี่ยม (Thailand Tourism Gold Awards) ประเภทแหล่งท่องเที่ยวสาขาแหล่งท่องเที่ยว เพื่อการเรียนรู้ และศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ลำตะคอง ได้รับรางวัลดีเด่น (Thailand Tourism Gold Awards) ประเภทแหล่งท่องเที่ยวสาขาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ จาก ททท. สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของการร่วมมือกันระหว่าง กฟผ. กับชุมชน ในการยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวของโรงไฟฟ้าท่องเที่ยวของ กฟผ. ให้เป็นไป ตามมาตรฐานสากล ซึ่ง ททท. ได้ให้การสนับสนุนทั้งด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้โรงไฟฟ้า และศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.ลำตะคอง เป็นที่รู้จัก และจากการที่สถานการณ์โควิด-19 ผ่อนคลาย ทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มียอดผู้เข้าชมโรงไฟฟ้าใต้ดินและเมืองลอยฟ้า จาก 3 แสนคน ในปี 2564 เป็น 1.5 ล้านคน ในปี 2565 ส่วนยอดผู้เข้าชมศูนย์การเรียนรู้ จาก 1 หมื่นคน ในปี 2564 เป็น 6 หมื่นคน ในปี 2565 ซึ่งมีส่วนช่วยให้เกิด การสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนจากเดิมปี 2564 มีรายได้ 5,210,084 บาท เป็น 12,454,467 ล้านบาท ในปี 2565

         “รางวัลดังกล่าวเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ มีคุณค่า ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และมีส่วนช่วยสร้างรายได้ ให้แก่ชุมชนเป็นอย่างยิ่ง กฟผ. ในฐานะเป็นองค์การของรัฐที่ต้องการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย พร้อมยกระดับประเทศและชุมชนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ จึงขอเชิญชวน เขต เขื่อน และโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ร่วมคว้ารางวัล ปี 2566 โดยส่งผลงานเข้าสมัครร่วมโครงการผ่านทางเว็บไซต์ www.thailandtourismawards.com ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2566 ประกาศผลรางวัลในวันที่ 8 กันยายน 2566 ซึ่งหากได้รับการอนุมัติใบสมัครภายในวันที่ 15 มีนาคม 2566 จะได้รับการประชาสัมพันธ์จาก Blogger จำนวน 1 โพสต์ สามารถศึกษาข้อมูลคุณสมบัติ และเกณฑ์การตัดสินเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนสมัครได้ที่ https://tourismawards.tourismthailand.com, www.facebook.com/ThailandTourismAwardsNew หรือ Line Official Account: @tourismawards ” น.ส.รัชดาพร เสียงเสนาะ กล่าวทิ้งท้าย

Skip to content