กฟผ. หนุนนโยบาย EV เดินหน้าลดคาร์บอน สร้างความมั่นใจ ดึงคนไทยเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า

28 February 2023

          เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนที่กำลังตัดสินใจซื้อรถใหม่ หนึ่งในตัวเลือกคงต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV (Electric Vehicle) แน่นอน ด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งาน ประสิทธิภาพของยานยนต์ และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางแล้ว ยังช่วยสร้างการเดินทางสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไม่ก่อให้เกิดมลพิษ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยลดโลกร้อนได้อีกด้วย ภาครัฐเองก็ส่งเสริมเต็มที่ ด้วยนโยบาย 30@30 แนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของประเทศ ด้วยการตั้งเป้าผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือ รถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี ค.ศ. 2030  พร้อมส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งมาตรการทางภาษีและที่ไม่ใช่ภาษี รวมถึงเตรียมความพร้อมระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้ารอบด้าน (EV Ecosystem) เพื่อให้ผู้ขับขี่ยานยนต์ไฟฟ้าเกิดความมั่นใจที่จะตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น

          การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ดูแลความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศ ที่นอกจากจะดำเนินภารกิจในการจัดหาไฟฟ้าให้เพียงพอกับความต้องการใช้ไฟฟ้าของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด กฟผ. ยังสนับสนุนธุรกิจระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรภายใต้สถานีชาร์จไฟฟ้าแบรนด์ “EleX by EGAT” ที่ให้บริการทั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้า Platform บริหารสถานีชาร์จไฟฟ้า BackEN” และแอปพลิเคชัน “EleXA” ช่วยอำนวยความสะดวกการใช้งาน“จอง ชาร์จ จ่าย” ซึ่งปัจจุบันมีสถานีชาร์จไฟฟ้ากว่า 104 สถานีทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนผ่านการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า มุ่งเน้นให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในชีวิตประจำวันรวมทั้งเดินทางได้ทั่วประเทศ ด้วยความมั่นใจ

150 สถานีชาร์จ มั่นใจเดินทางทั่วไทยได้

          ในปี 2566 นี้ กฟผ. ตั้งเป้าขยายสถานีชาร์จไฟฟ้าทั่วประเทศให้มีจำนวนรวมกว่า 150 สถานี เพื่อให้ครอบคลุมทุกจังหวัดมากขึ้น โดยแต่ละสถานีมีระยะห่างกันไม่เกิน 100 กิโลเมตร สามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน EleXA ได้ทุกสถานี  โดยล่าสุดได้เปิดสถานีชาร์จ EleX by EGAT เต็มรูปแบบแห่งแรกของจังหวัดแม่ฮ่องสอน รองรับการใช้งาน 2 ช่องจอด ประกอบด้วยเครื่องชาร์จไฟฟ้าแบบชาร์จเร็ว (DC Fast Charge) ขนาด 125 กิโลวัตต์ 2 หัวชาร์จ และเครื่องชาร์จไฟฟ้าแบบชาร์จด้วยความเร็วปกติ (AC Normal Charge) ขนาด 22 กิโลวัตต์ 1 หัวชาร์จ  รองรับผู้เดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ผ่านทางอำเภอปายมายังจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตลอดจนรองรับขนส่งสาธารณะพลังงานไฟฟ้าเชียงใหม่ – แม่ฮ่องสอน ที่จะเปิดให้บริการในอนาคต

          นอกจากนี้ยังจับมือกับพันธมิตร ขยายสถานนีชาร์จอย่างต่อเนื่อง อาทิ สถานีชาร์จ EleX by EGAT x BMW ที่ One Nimman จ.เชียงใหม่ รองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวในภาคเหนือ เปิดให้บริการ 3 หัวชาร์จ 2 ช่องจอด ประกอบด้วยเครื่องชาร์จแบบเร็ว (DC Fast Charge) ขนาด 125 กิโลวัตต์ 2 หัวชาร์จ และเครื่องชาร์จด้วยความเร็วปกติ (AC Normal Charge) ขนาด 22 กิโลวัตต์ 1 หัวชาร์จ  และร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดสถานีชาร์จ EleX by EGAT แห่งแรกที่ให้บริการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ณ อาคารจอดแล้วจร สถานีแยกนนทบุรี 1 ของรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) รองรับรถยนต์ EV ได้ 5 ช่องจอด แบ่งเป็นหัวชาร์จด้วยความเร็วปกติ (AC Normal Charge) ขนาด 7.4 kW 3 หัวชาร์จ ที่บริเวณภายในอาคารจอดรถ และขนาด 22 kW 2 หัวชาร์จ ที่บริเวณภายนอกอาคารจอดรถ รวมทั้ง ยังมีแผนเตรียมเปิดให้บริการสถานีชาร์จ ณ ลานจอดแล้วจร สถานีสามย่าน ของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) ภายในเดือนมีนาคมนี้อีกด้วย

ปลุกกระแสยานยนต์ไฟฟ้าภายในองค์กร ขับเคลื่อนเป้าหมายประเทศ

          เพื่อสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าภายในองค์กร  กฟผ. ได้เปิดตัว EV Charging Floor ภายในพื้นที่ลานจอดรถในสำนักงานใหญ่ กฟผ. จังหวัดนนทบุรี ประกอบด้วย เครื่องชาร์จจำนวน 66  หัวชาร์จ เป็นหัวชาร์จด้วยความร็วปกติ AC Normal Charge ขนาด 7.4 kW 110 ช่องจอด (รวมช่องจอดรอชาร์จ) ทำให้สถานีชาร์จแห่งนี้เป็นสถานีที่มีจำนวนหัวชาร์จมากที่สุดในประเทศ ช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มความมั่นใจในการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าให้กับบุคลากรในองค์กร และมุ่งสร้างให้สถานีชาร์จนี้เป็นต้นแบบโมเดล EV Charging Floor สำหรับอาคารสำนักงาน อาคารที่พักอาศัย และพื้นที่จอดรถอื่น ๆ ให้กับผู้ที่สนใจได้เป็นอย่างดี

ชาร์จไฟที่บ้าน ประหยัด สะดวก สบาย

          นอกจากการชาร์จไฟที่สถานีชาร์จแล้ว เครื่องชาร์จไฟฟ้าตามบ้านก็เป็นอีกหนึ่งเงื่อนไขสำคัญในการตัดสินใจเลือกใช้รถ EV ด้วยราคาที่จับต้องได้ ค่าใช้จ่ายในการชาร์จที่ถูกกว่า และความสะดวกสบาย ชาร์จเมื่อไหร่ก็ได้  ทำให้บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม กฟผ. ผู้ได้รับสิทธิ์ในการเป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของเครื่องชาร์จไฟฟ้าแบรนด์ Wallbox ได้รุกตลาดเครื่องชาร์จไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ความต้องการใช้งาน อาทิ รุ่น Pulsar Max และ Commander 2 ที่ตอบโจทย์สำหรับภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ ด้วยดีไซน์มินิมอล ทันสมัย จ่ายไฟได้สูงสุด 22 kW พร้อมความสามารถสุดสมาร์ท อำนวยความสะดวกได้ตลอดทั้งวันด้วยการเชื่อมต่อเครื่องชาร์จเข้ากับมือถือผ่าน WiFi หรือ Bluetooth ควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน myWallbox สามารถสั่งชาร์จ-หยุดชาร์จ กำหนดตารางเวลาชาร์จ ล็อคเครื่องชาร์จได้ตามใจ และรุ่น Supernova  ที่เหมาะกับภาคธุรกิจ ด้วยความเร็วในการชาร์จเพียง 15 นาที สามารถวิ่งได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร และทุกเครื่องสามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม EleXA ของ กฟผ.  

          ยานยนต์ไฟฟ้าถือเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยมุ่งสู่เป้าหมายสังคมคาร์บอนต่ำ กฟผ. พร้อมหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชนขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยร่วมผลักดันและร่วมสร้างการเดินทางสีเขียวให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน…

Skip to content