‘EGAT SCADA X’ นวัตกรรมสุดล้ำในการควบคุมระบบไฟฟ้า เทียบเคียงระบบชั้นนำของโลก  

20 March 2023

          Supervisory Control And Data Acquisition หรือที่เรียกกันว่า ระบบ SCADA หลายท่านอาจจะเคยได้ยินคำนี้มาบ้าง แต่ก็มีอีกหลายท่านไม่เคยคุ้นหูมาก่อนเลย ฟังจากชื่อแล้วดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่แท้จริงแล้วระบบ SCADA ถูกนำมาใช้ควบคุม สั่งการในงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ ใกล้ตัวเรากว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นตอนที่นั่งรถไฟฟ้า ขึ้นเครื่องบิน หรือแม้กระทั่งสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้านจากที่อื่นด้วยสมาร์ทโฟน ซึ่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. เองได้นำระบบ SCADA มาใช้ในการควบคุมระบบไฟฟ้าของประเทศมาเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว ล่าสุดได้ปรับปรุงพัฒนาให้เป็นเวอร์ชัน EGAT SCADA X ด้วยฝีมือและมันสมองของคน กฟผ. โดยสามารถทำงานเทียบเคียงได้กับระบบ SCADA ที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกเลยทีเดียว 

ระบบ SCADA คืออะไร ?

          ระบบ SCADA คือซอฟต์แวร์หนึ่งของคอมพิวเตอร์ที่นำมาใช้ในการตรวจสอบสถานะ วิเคราะห์ข้อมูลแบบ Real-Time ควบคุมการทำงาน รวมถึงสั่งการระบบควบคุมภายในอุตสาหกรรมและงานวิศวกรรมต่าง ๆ เช่น ระบบผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม การสื่อสารโทรคมนาคม สายการบิน รถไฟฟ้า การจัดการด้านพลังงานและระบบไฟฟ้า โดยระบบคอมพิวเตอร์จะติดตามและควบคุมกระบวนการทำงาน ซึ่งสามารถติดตามกระบวนการทำงานขนาดใหญ่ที่รวมหลายไซต์งานและมีระยะทางไกล เข้ามาแสดงผลและแจ้งเตือนผู้ใช้งานแบบ Real-Time ที่จุดเดียวกันได้ ผู้ควบคุมระบบที่อยู่ศูนย์กลางจึงสามารถมองเห็นภาพรวมการทำงานของทั้งระบบที่มีความสัมพันธ์กันได้อย่างชัดเจน ทั้งยังสามารถสั่งการตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถดูข้อมูลต่าง ๆ ในระบบย้อนหลังและนำมาวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้ประสิทธิภาพการทำงานของทั้งระบบดีขึ้นได้

กว่า 30 ปี ของการควบคุมระบบไฟฟ้าด้วย SCADA ล่าสุดคือเวอร์ชัน ‘EGAT SCADA X’ รองรับ Digital Substation

          เป็นเวลากว่า 30 ปี ที่ กฟผ. ได้นำระบบ SCADA มาใช้ในการควบคุมระบบไฟฟ้าภายในศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าแห่งชาติ (National Control Center: NCC) ศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าภาค และสถานีไฟฟ้าแรงสูง (สฟ.) ทั่วประเทศ ซึ่ง กฟผ. ก็ได้พัฒนาระบบ SCADA ขึ้นมาเองด้วย เรียกว่า EGAT SCADA เพื่อใช้งานในศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าภาค และ สฟ. ต่าง ๆ มาเป็นเวลามากกว่า 20 ปี ตั้งแต่เวอร์ชัน DOS ซึ่งเริ่มพัฒนาในปี 2536 ต่อมาเป็นเวอร์ชัน EGAT CCS Gen 2 พัฒนาในปี 2543 ล่าสุดเมื่อต้นปี 2564 ฝ่ายระบบควบคุมและป้องกัน กองพัฒนาระบบควบคุมระบบส่ง นำทีมโดย “ปอ” นายทิพชัย ลือวรรณ หัวหน้าแผนกเทคโนโลยีระบบควบคุมอัจฉริยะ พร้อมลูกทีมวิศวกรด้านคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ไฟแรงอีก 4 คน ได้แก่ “เจ” นายปิยะณัฐ เครือน้อย “โต้” นายณัฐนันต์ วัชเรนทร์วงศ์ “ดอย” นายทัตพงศ์ สงเคราะห์พันธุ์ และ “นนท์” นายวชิรวิทย์ พรอำนวยทรัพย์ ได้ร่วมกันอัปเกรดให้เป็นเวอร์ชัน EGAT SCADA X ซึ่งสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม พร้อมฟีดเจอร์ที่สวยงามน่าใช้ เพื่อรองรับข้อมูลที่มีความซับซ้อนและจำนวนที่มากขึ้น

          และด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในทุกอุตสาหกรรม รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันในปัจจุบัน ไม่ยกเว้นแม้ในส่วนของการควบคุมระบบไฟฟ้า อุปกรณ์ต่าง ๆ ใน สฟ. ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นรูปแบบดิจิทัลมากขึ้น (Digital Substation) ซึ่งระบบ EGAT CCS Gen 2 ไม่สามารถรองรับปริมาณข้อมูลที่มีความหลากหลายและมีจำนวนมากได้อีกต่อไป จึงได้มีการพัฒนาระบบ EGAT SCADA X ขึ้นเพื่อรองรับ Digital Substation ซึ่งเป็นหนึ่งในการดำเนินงานด้าน Grid Modernization ของประเทศ ที่มุ่งให้ระบบส่งพลังงานไฟฟ้ามีความแข็งแกร่ง ล้ำสมัย และมีประสิทธิภาพสูง เพื่อรักษาความมั่นคงทางระบบไฟฟ้าของประเทศจากพลังงานหมุนเวียนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต โดย EGAT SCADA X สามารถรองรับข้อมูลระบบต่าง ๆ ของ สฟ. ทั้งด้านการควบคุม การป้องกัน และการบำรุงรักษา ทำให้การควบคุมและบริหารจัดการอุปกรณ์ทั้งหมดใน สฟ. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

เริ่มใช้งานจริงในสถานีไฟฟ้าแรงสูง ปูทางการรักษาความมั่นคงของระบบไฟฟ้ายุคดิจิทัล

          EGAT SCADA X เริ่มนำร่องติดตั้งใช้งานจริงมาตั้งแต่ปี 2564 ใน 5 สฟ. ได้แก่ สฟ.อยุธยา 2 สฟ.อยุธยา 4 สฟ.แจ้งวัฒนะ สฟ.สระบุรี 5 และ สฟ.บางปะอิน 2 และในปี 2566 นี้ ทีมงานมีแผนติดตั้งใช้งานอีก 3 สฟ. ด้วยกัน คือ สฟ.พะเยา สฟ.ขอนแก่น 4 และ สฟ.สุราษฎร์ธานี รวมถึงเตรียมอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้แก่พนักงานฝ่ายปฏิบัติการภาคทั่วประเทศ ฝ่ายวิศวกรรมระบบส่ง ฝ่ายก่อสร้างระบบส่ง ตลอดจนพนักงานบำรุงรักษาในแต่ละ สฟ. เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการติดตั้งและปรับปรุงซอฟต์แวร์ นอกจากนี้ ฝ่ายปฏิบัติการภาคต่าง ๆ ก็มีแผนที่จะขยายผลการติดตั้งใช้งานเพิ่มเติม 57 สฟ. ในระยะต่อไปด้วย

          ด้วยความที่ EGAT SCADA X จะมีระยะเวลาในการใช้งานประมาณ 20 ปี จึงอาจกล่าวได้ว่าทีมงานใช้เวลา 2 ปี หรือคิดเป็น 10% ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้พร้อมใช้งาน นอกนั้นอีก 18 ปี หรือ 90% ได้มาจากการปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องโดยอาศัยข้อมูลจากการใช้งานจริงของผู้ใช้งาน เพื่อให้ได้ซอฟต์แวร์ที่มีความเหมาะสมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพต่อการใช้งานมากที่สุด รวมถึงสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งานควบคุมระบบไฟฟ้าและผู้บำรุงรักษาเพื่อความมั่นคงทางระบบไฟฟ้าของประเทศ  

นวัตกรรมทางเทคโนโลยีฝีมือคนไทย เทียบเคียงระบบ SCADA ชั้นนำของโลก

          EGAT SCADA X ที่พัฒนาโดยพนักงาน กฟผ. นี้ ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับองค์การในการจัดซื้อจัดหาระบบจากผู้ผลิตต่างประเทศไปได้กว่า 10 ล้านบาท นอกจากนี้ ข้อดีของการพัฒนาระบบขึ้นมาเองจะทำให้ผู้พัฒนามีอิสระในการเลือกใช้อุปกรณ์โดยไม่ยึดติดยี่ห้อหรือผู้ผลิตเจ้าใดเจ้าหนึ่ง สามารถเลือกใช้อุปกรณ์ได้ตามความต้องการและความเหมาะสมของบริบทการใช้งาน โดย EGAT SCADA X ได้รับการออกแบบและพัฒนาให้สามารถทำงานร่วมกันได้กับทุกอุปกรณ์ที่เป็นไปตามมาตรฐาน IEC 61850 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลในการรับและส่งข้อมูล ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าการจัดซื้ออุปกรณ์เข้ามาใช้งานเป็นไปด้วยความโปร่งใส ไม่มีการผูกขาด รวมถึงอาจจะได้ราคาที่ถูกที่สุด ขณะที่ประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ไม่ต่างกัน ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปได้หลายล้านบาท ยิ่งไปกว่านั้น จากการทำงานของระบบที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล IEC 61850 นี้เอง จึงนับว่า EGAT SCADA X ของ กฟผ. สามารถเทียบเคียงได้กับระบบ SCADA ที่พัฒนาโดยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกเลยทีเดียว

          ผลงานการพัฒนาซอฟต์แวร์ EGAT SCADA X นวัตกรรมทางเทคโนโลยีสมรรถภาพสูง รองรับ Digital Substation หนึ่งในการดำเนินงานด้าน Grid Modernization ของประเทศ และของ กฟผ. เป็นอีกหนึ่งเครื่องยืนยันได้ว่า คนไทยโดยพนักงาน กฟผ. มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ ที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก

          

Skip to content